ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวบ้านตั้งข้อสงสัย สสจ.แจ้งว่าพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนในจังหวัดประจวบฯ 21 ราย ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ และชาวไทย แต่ไม่แจ้งว่าพื้นที่ไหน กลุ่มเสี่ยงมีมากน้อยขนาดไหน พร้อมทั้งไม่แจ้งสื่อร่วมรับฟังข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ท่ามกลางความวิตกกังวลของการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
วันนี้ (6 ม.ค.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายแพทย์วรา เศลวัดนะกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 -6 ม.ค.65 พบว่า มีรายงานผู้ป่วยจำนวน 20,190 ราย ผู้ป่วยในเรือนจำ 572 ราย และผู้ป่วยจากการหลบหนีเข้าเมือง 80 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 27 ราย เสียชีวิต จำนวน 122 ราย คลัสเตอร์ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในช่วง 14 วันล่าสุด แบ่งเป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ (ผู้ป่วย 26 รายขึ้นไป) จำนวน 6 คลัสเตอร์ ในคลัสเตอร์ขนาดใหญ่อยู่ระหว่างการจำกัดการแพร่ระบาด คือ กองร้อยทหารเกณฑ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ตลาดสดไร่ใหม่ และโรงงานผลไม้กระป้อง หนองพลับ ส่วนคลัสเตอร์ขนาดเล็ก (ผู้ป่วย 10-25 ราย) จำนวน 5 คลัสเตอร์ควบคุมได้ภายใน 14 วันทั้งหมด สาเหตุการติดเชื้อ คือ การสัมผัสคนในครอบครัว ที่ทำงาน และการจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม
ผลการให้บริการฉีดวัคซึนป้องกันโควิด-19 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 410,048โดส คิดเป็นร้อยละ 70.93 และเข็มที่ 2 จำนวน 381,880 โดส คิดเป็นร้อยละ 66.06 การติดตามนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาในพื้นที่ พักในโรงแรมหัวหิน 9,629 คน พบว่า มีผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19 จำนวน 27 ราย แบ่งเป็นในกลุ่มนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go การตรวจครั้งที่ 2 (วันที่ 6-7) 22 ราย และกลุ่มนักท่องเที่ยวประเภท Sand box 4 ราย จากการตรวจครั้งที่ 1 จำนวน 4 ราย และ ตรวจครั้งที่ 2 จำนวน 1 ราย
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการตรวจพบรวม 21 ราย เป็นชาย 12 ราย และหญิง 9 ราย ในจำนวนนี้แบ่งเป็นการติดจากต่างประเทศ 6 ราย ติดในประเทศ 14 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวน 1 ราย ซึ่งมาตรการหลักของการป้องกันการติดเชื้อโควิต-19 สายพันธุ์โอมิครอน คือ V-U-C-A ได้แก่ 1.การรับวัคซีนให้ครบ 2.การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคแบบครอบจักรวาล Universal Prevention 3.สถานประกอบการเน้นปฏิบัติตาม Covid Free Setting หรือ SHA+ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ 4.การตรวจ ATK ซึ่งหลังเทศกาลปีใหม่ เน้นย้ำให้ผู้ที่ดำเนินทางไปท่องเที่ยว หรือกลับภูมิลำเนา ต้องมีการตรวจ ATK ก่อนกลับเข้ามาทำงาน ซึ่งหากพบเชื้อสามารถติดต่อสถานพยาบาลเพื่อรับการรักษาตามหลักเกณฑ์ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปัจจุบันทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่มีการแจ้งสื่อมวลชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับทราบว่าจะมีการแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 แต่อย่างใด นอกจากนั้น ชาวบ้านและผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า เพราะสาเหตุอะไรถึงมาแถลงในวันนี้ และเป็นการแถลงที่ไม่มีความชัดเจนเรื่องโอมิครอน ที่ นพ.สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แถลงในห้องประชุมผ่านการไลฟ์สดของ สวท.ประจวบฯ แต่ไม่ยอมระบุว่า มีการตรวจพบ 21 ราย จากพื้นที่อำเภอใดบ้าง และในสถานประกอบการที่ไหนบ้าง กลุ่มเสี่ยงไม่มีการแจ้ง ทำให้ประชาชนแทนที่จะได้รับทราบข้อมูลเพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงของจุดที่พบการระบาด ดังนั้น จึงอยากฝากไปยังสื่อมวลชน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขอให้มีการชี้แจงแถลงให้ชัดเจนมากกว่านี้
ด้านนายสุรยุทธ ยงชัยยุทธ ผู้สื่อข่าวมติชน กล่าวว่า เป็นการแอบแถลงข่าวไม่ยอมแจ้งสื่อมวลชนแต่อย่างใด ไม่ทราบว่าเพราะสาเหตุอะไร โดยหากมีสื่อมวลชนเข้าร่วมและซักถามเพื่อให้เกิดข้อมูลที่ชัดเจนคลายความวิตกกังวลและข้อสงสัยที่ประชาชนควรรับรู้ จึงอยากเรียกร้องให้ทั้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำงานให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มากกว่านี้ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มา 2 ปีเต็ม และการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน