สุดสงสารแม่ป่วยติดเตียง เขียนจดหมายน้อยขอ "ส.ต.ท." กลับบ้าน โฆษกตำรวจบอกอ้างแบบนี้ไม่ได้

สะพัดจดหมายน้อย แม่ป่วยติดเตียง เขียนถึง ผบ.ตร.ขอย้ายลูกชายกลับบ้านที่กาฬสินธุ์ ดูแลแม่ที่มีโรคประจำตัว แต่โฆษกตำรวจบอกใช้พิจารณาไม่ได้ ที่อ้างพ่อแม่ป่วย ดูแลเมีย ลูกยังเล็ก นายตำรวจใช้เป็นเหตุผลทุกปี แต่ต้องดูด้วยว่าย้ายแล้วคนจะขาดไหม

วันนี้ (6 ม.ค.) เฟซบุ๊ก "พระจันทร์ ลายกระต่าย" กระบอกเสียงของตำรวจชั้นผู้น้อย โพสต์ภาพจดหมายเขียนด้วยลายมือ ระบุว่า "เรียน ผบ.ตร.ที่เคารพรักอย่างสูง ดิฉัน บุญล้อม วงศ์ธัยนันท์ มีความประสงค์อยากย้ายลูกชายกลับภูมิลำเนา สิบตำรวจโท จีระศักดิ์ สมเนตร ประจำการอยู่ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปประจำการอยู่ที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อไปดูแลแม่ที่มีโรคประจำตัว จึงเรียนมาเพื่อทราบ บุญล้อม วงศ์ธัยนันท์"

โพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่

โดยลูกชายนางบุญล้อม คือ ส.ต.ท.จีระศักดิ์ สมเนตร อายุ 26 ปี ผบ.หมู่ (ป.) สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บรรจุครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2560 หรือเกือบ 5 ปีที่แล้ว คุณวุฒิแต่งตั้งชั้นประทวน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความสมัครใจขอรับการแต่งตั้งเป็น อันดับ 1 ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์, อันดับ 2 ผบ.หมู่ (ป.) สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และอันดับ 3 ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ ขอกลับภูมิลำเนาเพื่ออุปการะมารดา

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า จดหมายดังกล่าวเป็นเอกสารแนบไปกับการขอโยกย้ายตำรวจ ตำแหน่งรองสารวัตร และ ผบ.หมู่ ชั้นประทวน ประจำปี 2564 คาดว่าถูกส่งต่อกันในกลุ่มไลน์ตำรวจ แต่ไม่รู้ว่าหลุดออกไปได้อย่างไร โดยนางบุญล้อม มารดา ป่วยติดเชื้อเรื้อรังมากว่า 20 ปี ต้องเข้าออกโรงพยาบาลตลอด มีป้าช่วยดูแล แต่ภายหลังอาการหนักขึ้น ป้าขับรถไม่เป็น ต้องจ้างรถรับ-ส่ง อีกทั้งที่ทำงานไกลจากบ้าน 800-900 กิโลเมตร แต่ละปีกลับบ้านได้ไม่เกิน 2 ครั้ง จึงอยากทำเพื่อครอบครัว

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อรายหนึ่ง ระบุว่า เหตุผลแรกที่นายตำรวจใช้ยื่นเรื่องโยกย้ายทุกปี คือเรื่องดูแลครอบครัว พ่อแม่ป่วย ดูแลภรรยาหรือลูกเล็ก แต่ไม่สามารถใช้ในการพิจารณาได้ เพราะต้องดูตามความเหมาะสมเรื่องกำลังพลในพื้นที่ โดยผู้กำกับการสถานีตำรวจนั้นๆ ต้องพิจารณาว่าหากโยกย้ายแล้วจะขาดเจ้าหน้าที่หรือไม่ ก่อนส่งเรื่องให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจารณาต่อไป ส่วนการโยกย้ายสับเปลี่ยนพื้นที่ในลักษณะจับคู่นั้น ต้องพิจารณาตามเกณฑ์ เช่น ปฏิบัติหน้าที่ตามระยะที่กำหนดหรือไม่ รวมถึงพฤติกรรมความประพฤติรายบุคคล