ชัยนาท - รองผู้ว่าฯ ชัยนาท สั่งเอาผิดคนลักลอบทิ้งสารเคมี 3 แห่งในพื้นที่ หวั่นเป็นอันตรายต่อประชาชน เร่งหน่วยงานให้ดำเนินการภายใน 15 วัน หลังเหตุเกิดตั้งแต่ปลายปี 63 แต่เรื่องยังไม่คืบ
วันนี้ (24 ธ.ค.) นายนที มนตริวัต รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท สั่งหน่วยงานเร่งเอาผิดบุคคลที่ลักลอบนำถังบรรจุสารเคมีไปฝังกลบในที่ดิน และเททิ้งในบ่อดินลูกรังในที่ดินเอกชน 3 แห่ง หลังเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2563 แต่เรื่องกลับไม่คืบหน้า จากกรณีที่มีชาวบ้านร้องเรียนว่า มีการลักลอบทิ้งสารเคมีในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ทั้งกรณีการลักลอบฝังถังบรรจุสารเคมี จำนวน 60 ถัง ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ ซึ่งเหตุเกิดตั้งแต่ปลายปี 2563 และกรณีมีการลักลอบทิ้งสารเคมีในบ่อดินลูกรังเก่าในที่ดินเอกชน ในพื้นที่หมู่ 5 หมู่ 6 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท และหมู่ 5 ต.หางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน 2564
โดยช่วงเกิดเหตุจะมีรถบรรทุกขับมาในตอนกลางคืนแอบลักลอบนำสารเคมีไปทิ้งในบริเวณดังกล่าวอยู่หลายครั้ง ชาวบ้านเห็นผิดสังเกตจึงแจ้งให้หน่วยงานต่างๆ ทั้ง สำนักงานทรัพยากรธรรมาชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าตรวจสอบ ซึ่งพบว่ามีการลักลอบทิ้งสารเคมีจริง แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้มีการเอาผิดดำเนินคดีต่อผู้ลักลอบนำสารเคมีมาทิ้ง รวมทั้งเจ้าของที่ดินที่ให้ทิ้งสารเคมีด้วย ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างไม่สบายใจ กลัวว่าสารเคมีดังกล่าวแม้จะอยู่ในที่ดินของเอกชน แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และอาจปนเปื้อนลงในแหล่งน้ำ เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน
ล่าสุด นายนที มนตริวัต รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท จึงได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสั่งการให้ทุกหน่วยงาน ทั้ง สนง.อุตสาหกรรมจังหวัด สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด สาธารณสุข อบต.ท่าฉนวน เทศบาลตำบลธรรมามูล เทศบาลตำบลหางน้ำสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบ และร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดดำเนินคดีต่อเจ้าของที่ดิน และผู้ที่นำสารเคมีมาทิ้ง รวมทั้งให้สืบหารถบรรทุกที่นำสารเคมีมาทิ้งว่าเป็นของบริษัทใด อยู่ที่ไหน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยให้เร่งดำเนินการภายใน 15 วัน หากเจ้าหน้าที่รัฐยังไม่ดำเนินการจะเอาผิดทางวินัย และเอาผิดมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยนาท พบว่า จากการตรวจสอบกรณีลักลอบฝังถังบรรจุสารเคมีในพื้นที่ ม.8 ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ พบว่า มีการฝังไว้ใต้ดิน จำนวน 50-60 ถัง เป็นสารเคมีที่เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามบัญชีท้ายประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งได้มีการแจ้งความ ดำเนินการเอาผิดต่อบุคคลที่นำสารเคมีมาทิ้งแล้ว 1 ราย แต่ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน
ส่วนกรณีการลักลอบนำสารเคมีไปทิ้งในบ่อลูกรังเก่า ในพื้นที่ ม.5 ม.6 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท และ ม.5 ต.หางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ ซึ่งเป็นที่ดินของเอกชนรายเดียวกัน พบว่า สารเคมีที่ทิ้งลงในบ่อน้ำมีสีดำคล้ำ มีคราบไขมันลอยอยู่บริเวณผิวน้ำ มีกลิ่นคล้ายน้ำมัน และส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งกรณีนี้ ยังไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของที่ดิน เนื่องจากเจ้าของที่ดินดังกล่าวอ้างว่าไม่รู้เรื่อง มีคนลักลอบนำสารเคมีเข้าไปทิ้งในที่ดินของตนเอง
