ปูด “นักการเมืองแปดริ้ว” ตัวการลอบทิ้งกากสารพิษ แก๊งเดียวกับ “ค้าน้ำมันเถื่อน”

“สุชาติ” วอนนายกฯเร่งแก้ปัญหา รง.อุตฯลอบทิ้งกากสารพิษที่ อ.สนามชัยเขต หลังผู้ว่าฯขอสนับสนุนงบฯจัดการปัญหาตามหลักวิชาการ จี้ลากคอคนทำผิดมาลงโทษ ปูด “นักการเมืองท้องถิ่น” เป็นตัวการ เครือข่ายเดียวกับแก๊งค้าน้ำมันเถื่อนที่เพิ่งโดนรวบกลางอ่าวไทย แต่คดีเงียบฉี่


วันนี้ (10 ธ.ค.) นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่หมู่ 6 บ้านนาน้อย ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการมีผู้ลักลอบทิ้งกากสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม ในสวนปาล์มแห่งหนึ่งในพื้นที่ดังกล่าว น้ำจากบ่อสารพิษนี้สามารถไหลลงคลองระบมด้านทิศใต้ และไหลลงคลองท่าลาด อ.พนมสารคาม ที่เป็นแหล่งต้นน้ำของ จ.ฉะเชิงเทรา และได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รมว.มหาดไทย, รมว.อุตสาหกรรม, รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เพื่อให้พิจารณาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยเร่งด่วนแล้วเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วนั้น ล่าสุดทางผู้ว่าฯฉะเชิงเทราได้ทำหนังสือประสานมายังตนเพื่อขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนอีกครั้ง

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ตนจึงได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทราบถึงปัญหาซึ่งสร้างความเดือดร้อน และเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ตลอดจนส่งผลเสียต่อแหล่งน้ำ และทำลายสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก โดยได้นำเรียนไปด้วยว่า หลังจากตรวจสอบแล้วสันนิษฐานว่าเป็นกากสารพิษที่มาจากน้ำมันปิโตรเลียมที่ใช้แล้วจากโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีกลิ่นเหม็นฉุนรุนแรง มีสารพิษโลหะหนักเกินค่ามาตรฐาน และมีสารก่อมะเร็ง โดยเบื้องต้นทางจังหวัดได้แก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนแล้ว แต่ยังขาดงบประมาณเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างฉุกเฉินเร่งด่วนที่จะต้องนำน้ำกากสารพิษอุตสาหกรรมและดินที่ปนเปื้อนดังกล่าวไปกำจัดตามหลักวิชาการ ราว 30 ล้านบาท

“นอกจากขอให้นายกฯพิจารณาจัดสรรงบประมาณสนับสนุน จ.ฉะเชิงเทรา แล้ว ยังขอให้เร่งรัดหาตัวผู้กระทำความผิด ซึ่งมีข้อมูลว่าเป็นขบวนการของนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.ฉะเชิงเทรา ที่กระทำการอุกอาจต่อเนื่อง ไม่สนใจมหันตภัยที่จะเกิดขึ้นต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม โดยขอให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดและให้ถึงที่สุดเพื่อป้องกัน ปราบปราม และเป็นเยี่ยงอย่างไม่ให้มีการกระทำความผิดเช่นนี้อีก” นายสุชาติ ระบุ

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับขบวนการลอบทิ้งกากสารพิษที่มาจากน้ำมันปิโตรเลียมที่ใช้แล้วจากโรงงานอุตสาหกรรมดังกล่าว เป็นเครือข่ายเดียวกับขบวนการลักลอบค้าน้ำมันในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเพิ่งมีกรณีเรือเทคซ่า ถูกจับกุมพร้อมน้ำมันกว่า 4 แสนลิตร กลางทะเลอ่าวไทย เมื่อช่วงเดือน ต.ค.64 ที่ผ่านมา โดยมีข้อมูลว่า มีนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.ฉะเชิงเทรา อยู่เบื้องหลัง แต่การดำเนินคดีกลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด.