เชียงใหม่-เชียงใหม่ติดเชื้อโควิด-19รายวันเพิ่ม 209 ราย ไม่นับรวมATKผลบวก 685 ราย พบ 15 คลัสเตอร์ร้านเหล้ายอดยังขยับขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การติดเชื้อในครอบครัวกลับมามีแนวโน้มสูงขึ้นอีกครั้ง สืบเนื่องจากกลุ่มผู้ติดเชื้อในร้านเหล้าเอาเชื้อไปแพร่ระบาดคนในบ้าน กำชับประชาชน “การ์ดอย่าตก” เลี่ยงไปพื้นเสี่ยงและงดสังสรรค์
ช่วงค่ำวันนี้(9 ม.ค.65) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ว่าวันนี้ (9 ม.ค. 65) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 209 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่ 15 ราย ได้แก่ ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ตามโปรแกรม Test & Go 8 ราย, จังหวัดตาก แม่ฮ่องสอน เชียงราย กระบี่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และชลบุรี จังหวัดละ 1 ราย ส่วนอีก 194 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด ขณะที่การตรวจATKวันนี้จำนวน 1,096 ราย พบผลเป็นบวก 685 ราย โดยเวลานี้มีผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาจำนวนทั้งสิ้น 1,575 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยสีเขียว 1,240 ราย ,สีเหลือง 314 ราย และสีแดง 21 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้มาจากคลัสเตอร์ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม 45 ราย จาก 15 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย ร้านท่าช้าง 10 ราย, ร้าน Hom Bar 6 ราย, ร้าน Zoe in Yellow 6 ราย, ร้าน Living Machine 5 ราย, ร้านเสี่ยว ย่านสันติธรรม 3 ราย, ร้านฉลุย 3 ราย, มีไทม์ไลน์ไปสถานที่เสี่ยงหลายแห่ง 2 ราย, ร้าน Blacklist Café and Restaurant 2 ราย, ร้าน The PARK Society 2 ราย, ร้าน SOPA Café 1 ราย, ร้าน เปิง Café 1 ราย, ร้าน Thay 1 ราย, ร้าน ร้าน Riverside Bar & Restaurant 1 ราย, ร้าน Goodview Bar & Restaurant 1 ราย และร้าน Beer Lab 1 ราย
โดยขณะนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้มีคำสั่งปิดร้านเหล่านี้แล้ว ซึ่งทางทีมควบคุมโรคได้ลงทำการควบคุมโรค ฆ่าเชื้อ ตรวจคัดกรองเชิงรุก ค้นหากลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มเสี่ยงต่ำ และออกคำสั่งกักตัวผู้สัมผัสที่มีผลตรวจเป็นลบเป็นเวลา 14 วันแล้ว นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคและเชื่อมโยงคลัสเตอร์อีก 53 ราย และผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 96 ราย
ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อในช่วงนี้ พบว่าการสัมผัสในครอบครัว มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสในสถานบันเทิงหรือร้านอาหารที่เปิดให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ที่เพิ่มสูงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 เมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ผู้สัมผัสร่วมบ้านเริ่มมีอาการและตรวจพบเชื้อมากขึ้น ขณะที่การสัมผัสในที่ทำงาน การสัมผัสในชุมชน และการสัมผัสจากสถานที่ระบาดในต่างจังหวัด มีสัดส่วนลดลง จึงขอย้ำเตือนประชาชนว่า “การ์ดอย่าตก” โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคส่วนบุคคลต้องเคร่งครัด เฝ้าติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และที่สำคัญ ควรงดหรือเลี่ยงไปพื้นที่เสี่ยง หรืองานปาร์ตี้สังสรรค์ต่างๆ
ส่วนผู้เสียชีวิต 2 รายวันนี้ รายแรก เป็นชายไทย อายุ 55 ปี มีโรคประจำตัว คือ ผนังหัวใจรั่ว และเกาต์ ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อไม่ชัดเจน และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา อีกราย เป็นชายไทย อายุ 76 ปี มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ไตวาย โรคหัวใจ และเกาต์ ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อไม่ชัดเจน และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อนเช่นกัน และได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565