เชียงใหม่ - เชียงใหม่ยอดติดเชื้อโควิด-19 พุ่งพรวดหลังปีใหม่ จนท.เตรียมเหนื่อยตั้งจุดตรวจ ATK คัดกรองเป็นพัลวันอีกครั้ง ชี้การติดเชื้อส่วนใหญ่จากคลัสเตอร์ร้านอาหารเปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบร้าน “Living Machine” นิมมานฯ ซอย 7 ติดเพิ่มอีก 52 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนเชื่อมโยงคลัสเตอร์อีกเป็นร้อย ขณะเดียวกันตรวจเจอสายพันธุ์ “โอมิครอน” ในร้านเหล้าชื่อดัง ทั้ง “ท่าช้าง-ฮอมบาร์-ร้าน Zoe in Yellow-ฉลุยคาเฟ่”
ช่วงค่ำวันนี้ (5 ม.ค. 65) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 378 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างพื้นที่ 25 ราย ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร 11 ราย, สุราษฎร์ธานี 3 ราย, น่าน ลำพูน ภูเก็ต และชลบุรี จังหวัดละ 2 ราย, ขอนแก่น ระยอง และตรัง จังหวัดละ 1 ราย ส่วนอีก 353 รายเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยมาจากคลัสเตอร์ใหม่ และคลัสเตอร์ที่ยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง 89 ราย ส่วนใหญ่เป็นคลัสเตอร์ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่เปิดให้ดื่มแอลกอฮอล์ได้ ประกอบด้วย คลัสเตอร์ร้าน Living Machine นิมมานฯ ซอย 7 จำนวน 52 ราย, คลัสเตอร์ร้าน Zoe in Yellow 14 ราย, คลัสเตอร์สำนักงานทรู เชียงใหม่ สำนักงานภาค สันกำแพง 6 ราย, ผู้ติดเชื้อที่มีไทม์ไลน์ไปสถานที่เสี่ยงหลายแห่ง 2 ราย, คลัสเตอร์ร้านเหล้าตองไม่มีชื่อ ถนนจรัสวงค์ ฟ้าฮ่าม 3 ราย, คลัสเตอร์ร้านเสี่ยว ย่านสันติธรรม 4 ราย, ร้านทวีพรรณวัสดุก่อสร้าง ตำบลท่าศาลา 1 ราย และคลัสเตอร์งานกินเลี้ยง ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย 1 ราย ซึ่งขณะนี้ทีมควบคุมโรคในทุกพื้นที่ได้ลงพื้นที่ทำการควบคุมโรค และตรวจคัดกรองเชิงรุก ค้นหากลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มเสี่ยงต่ำเพิ่ม พร้อมทั้งดำเนินการฆ่าเชื้อ สอบสวนโรค และส่งตัวอย่างตรวจหาสายพันธุ์ของเชื้อแล้ว
ส่วนคลัสเตอร์เดิมที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค การออกตรวจเชิงรุก และการติดตามผู้สัมผัส พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 25 ราย ส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นกลุ่มคลัสเตอร์ร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เปิดให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ประกอบด้วย ร้านฮอมบาร์ 10 ราย, ร้านท่าช้าง 8 ราย, หน่วยทหารแห่งหนึ่ง อำเภอแม่ริม 2 ราย, ร้านฉลุยคาเฟ่ 3 ราย, ร้านโสภาคาเฟ่ 1 ราย และร้านเปิงคาเฟ่ 1 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค และเชื่อมโยงคลัสเตอร์ 124 ราย และผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 112 ราย ซึ่งทุกอำเภอได้มีการออกคำสั่งกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่มีผลตรวจครั้งแรกเป็นลบ รวมทั้งมีการติดตามให้กักตัวอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อสู่คนในครอบครัวและชุมชน ขณะที่การระบาดในครอบครัวพบเพิ่ม 3 ราย จากครอบครัวหมู่ 8 ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง 1 ราย, ครอบครัวหมู่ 13 ตำบลหนองตอง อำเภอหางดง 1 ราย และครอบครัวตำบลสะเมิงเหนือ อำเภอสะเมิง 1 ราย
สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวานนี้ (4 ม.ค. 65) พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 9 ราย รวมผู้ติดเชื้อทั้งหมด 44 ราย โดยเป็นกลุ่มผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศตามระบบ Test and Go กลุ่มผู้ที่มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง คือ จังหวัดชลบุรี และกรุงเทพมหานคร และกลุ่มผู้มีไทม์ไลน์ไปร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ ร้าน Zoe in Yellow, ฮอมบาร์, ท่าช้าง และฉลุยคาเฟ่ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-29 ปี และไปเที่ยวตามเวลาที่ได้ประกาศพื้นที่เสี่ยงไว้ทั้งหมด ส่วนผู้เสียชีวิต 1 รายวันนี้เป็นหญิงไทย อายุ 57 ปี มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง และรูมาตอยด์ ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อ เป็นการสัมผัสในครอบครัว และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่ยังคงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ตั้งแต่พรุ่งนี้ (6 ม.ค. 65) เป็นต้นไปจังหวัดเชียงใหม่จะทำการเปิดจุดบริการตรวจคัดกรองหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อาคารหอประชุมสวนสุขภาพบ้านเด่น ตำบลวัดเกต อีกครั้ง หลังจากที่เคยปิดให้บริการไปก่อนหน้านี้ โดยจะให้บริการตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงด้วยวิธี ATK เพื่อที่จะสกัดกั้นไม่ให้มีการระบาดเป็นวงกว้างมากกว่านี้