เชียงใหม่ - เชียงใหม่เจออีกโควิด-19 คลัสเตอร์ใหม่ “วัดเจ็ดยอด” ทั้งพระและเณรติดเชื้อรวมแล้วจำนวนมาก หลังเดินทางไปต่างพื้นที่แล้วนำเชื้อกลับมาแพร่กระจาย เน้นย้ำประชาชน “การ์ดห้ามตก” โดยเฉพาะการจัดงานรวมกลุ่มต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด พร้อมวอนกลุ่มเสี่ยง และผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงต้องกักตัวอย่างจริงจัง
ช่วงค่ำวันนี้ (27 ธ.ค. 64) ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 67 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่ 2 ราย อีก 65 รายเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยมาจากคลัสเตอร์ใหม่ และคลัสเตอร์ที่ยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง 10 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ใหม่ วัดเจ็ดยอด ตำบลช้างเผือก 5 ราย เป็นกลุ่มสามเณรที่เดินทางไปต่างพื้นที่ แล้วกลับมาทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ ทำให้แพร่กระจายไปสู่สามเณรและพระลูกวัดหลายราย, คลัสเตอร์ใหม่ บริษัทเดอะริช เมดิคอลโกลด์ จำกัด 2 ราย เป็นพนักงานของบริษัท, คลัสเตอร์ใหม่คนเก็บลำไย ตำบลหนองตอง อำเภอหางดง 1 ราย, คลัสเตอร์ร้านเลอเนิร์ฟ คาเฟ่ ตำบลช้างเผือก เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ 1 ราย และคลัสเตอร์ใหม่ The Wisdom Clinic เซ็นทรัลแอร์พอร์ต ชั้น 3 จำนวน 1 ราย ขณะนี้ทีมควบคุมโรคในทุกพื้นที่ได้ลงทำการควบคุมโรค ตรวจคัดกรองเชิงรุกแยกกลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มเสี่ยงต่ำ ฆ่าเชื้อในพื้นที่ และสอบสวนโรคแล้ว
ส่วนคลัสเตอร์เดิมที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค การออกตรวจเชิงรุก และการติดตามผู้สัมผัส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 4 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ 1 ราย, คลัสเตอร์ตลาดประตูเชียงใหม่ 1 ราย ยังคงเป็นพ่อค้า-แม่ค้าในตลาดทั้ง 2 คลัสเตอร์, บริษัทจีเอสอี คอร์ปอเรชั่น ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย 1 ราย และคลัสเตอร์กองพันพัฒนาที่ 3 อำเภอแม่ริม 1 ราย ขณะที่การติดเชื้อในกลุ่มครอบครัว พบเพิ่ม 6 ราย จากครอบครัวหมู่บ้านเวียงทอง ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ 3 ราย และครอบครัวของผู้ติดเชื้อ ATK 5890 พบเพิ่ม 3 ราย แสดงให้เห็นชัดเจนว่ากลุ่มเสี่ยง หรือเป็นผู้ที่ไปในพื้นที่เสี่ยงมาแล้วไม่เคร่งครัดในการกักตัว จะทำให้คนในครอบครัวติดเชื้อได้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 23 ราย และเป็นผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 22 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 2 รายวันนี้ รายแรกเป็นชายไทยอายุ 82 ปี มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง ปัจจัยการติดเชื้อไม่ชัดเจน และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยวันที่ 14 ธันวาคมเริ่มมีอาการหายใจเหนื่อย อ่อนเพลีย วันที่ 21 ธันวาคมมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ญาตินำส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ ตรวจ RT-PCR ยืนยันติดเชื้อโควิด กระทั่งวันที่ 25 ธันวาคม ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตลง
อีกรายเป็นชายไทยอายุ 56 ปี ปฏิเสธโรคประจำตัว ปัจจัยการติดเชื้อ เป็นการสัมผัสในครอบครัว และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยวันที่ 14 ธันวาคมเริ่มมีอาการปวดท้อง อ่อนเพลีย รับประทานได้น้อย วันที่ 18 ธันวาคมมีอาการมากขึ้นและทราบว่าคนในครอบครัวติดเชื้อโควิด เข้าตรวจ RT-PCR ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด รับไว้รักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ แพทย์ให้การรักษาประคับประคองเรื่อยมา กระทั่งเสียชีวิตลงในวันที่ 26 ธันวาคมด้วยระบบหายใจล้มเหลว
ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำประชาชนอีกครั้งว่า “การ์ดห้ามตก” โดยเฉพาะการจัดงานรวมกลุ่ม ปาร์ตี้สังสรรค์ ต้องปฏิบัติการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบครอบจักรวาล ทั้งการออกบ้านเมื่อจำเป็น สวมหน้ากากอนามัยทับด้วยหน้ากากผ้า เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ทำความสะอาดฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังออกบ้านเท่าที่จำเป็น เลือกรับประทานอาหารที่ร้อนและปรุงสุกใหม่ ล้างมือบ่อยๆ หากสงสัยว่าตัวเองมีความเสี่ยงให้ตรวจด้วย ATK