ลำปาง - เศร้าสลดสะเทือนใจกันทั่ว..ขรก.อปท.ลำปาง ระดับ 6 พ่ายพิษโควิด ธุรกิจครอบครัวหยุดชะงัก-หนี้สินรุม แบงก์ไม่ปล่อยกู้เพิ่ม แถมโทร.ตามทวงถี่ยิบ โพสต์ขอบริจาคจากเพื่อนข้าราชการทั่วประเทศเป็นลาง ก่อนผูกคอตายในห้องเก็บเอกสาร สนง.
วันนี้ (19 ธ.ค. 64) ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านได้มาช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ภายในวัดศาลาไชย เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพ นางเพ็ญศิริ ถนอมจิตต์ อายุ 53 ปี นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ ระดับ 6 เทศบาลตำบลศาลา อยู่บ้านเลขที่ 402 หมู่ 2 ต.ศาลา อ.เกาะคา จ.ลำปาง ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด
เหตุสุดสลดดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงบ่ายวานนี้ (18 ธ.ค.) โดยเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยเกาะคา ลำปาง พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลเกาะคา จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคารับแจ้งมีเหตุคนผูกคอตายในห้องเก็บบัตร เก็บเอกสาร ภายในสำนักงานเทศบาลตำบลศาลา จึงเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ พบศพนางเพ็ญศิริใช้เชือกผูกคอกับเสาปูนใกล้กับประตูม้วนเหล็กภายในห้องเก็บบัตรดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการชันสูตรพลิกศพ และนำศพส่งโรงพยาบาลลำปาง เพื่อให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง
ทั้งนี้ จากการติดตาม Face book ของนางเพ็ญศิริ พบว่าเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมได้โพสต์ข้อความแสดงความอัดอั้นตันใจเกี่ยวกับปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด แม้ที่ผ่านมาจะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ หลายระลอก แต่ก็พยายามปรับตัว เปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจหลายอย่าง
แต่เมื่อมาเจอโควิดทุกอย่างหยุด ไปต่อไม่ได้จนถึงทางตัน และถูกกดดันจากธนาคารที่โทร.ทวงตามจนสติแตก จิตตก ด้วยวงเงินที่เป็นหนี้กว่า 5 ล้านบาท ทรัพย์สินที่มีก็จะถูกยึด ธนาคารไม่ปล่อยเงินเพื่อให้มาหมุนเวียน จึงเดินต่อไม่ได้ นอกจากนี้ยังได้โพสต์ขอความช่วยเหลือ-ขอรับบริจาคเงินจาก อปท.ทั่วประเทศ แห่งละ 999 บาท พร้อมกับรูปภาพข้อความไว้ เหมือนเป็นลางบอกเหตุล่วงหน้า
ซึ่งหลังจากเกิดเหตุสลดขึ้นเมื่อวานนี้ หลายคนได้ย้อนกลับไปดูโพสต์ดังกล่าว บางคนก็บอกว่า ทำไมไม่เห็นโพสต์นี้ตั้งแต่แรก และส่วนใหญ่ก็แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ด้าน ร.ต.ต.อรรถศิลป์ เรือนคำ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร ซึ่งเป็นพี่ชายของผู้ตายบอกว่า หลังวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาด น้องสาวเครียดเรื่องเงิน และเศรษฐกิจ ช่วงหลังทราบว่าเป็นหนี้เยอะมาก ทั้งคอนโดมิเนียมที่กรุงเทพฯ ก็กำลังจะถูกยึด
และไม่กี่วันที่ผ่านมาน้องมาขอยืมเงินตน 1,500 บาท ตนเองก็ให้ไป แต่ไม่ทราบว่านำไปทำอะไรไม่ได้ถาม แต่เขาก็ไม่ได้แสดงอาการที่ผิดปกติอะไร ช่วงหลังก็มานอนกับแม่ แต่ทราบเพียงว่าเขากำลังเครียดเรื่องปัญหาทางการเงินหลังประสบปัญหาหนี้สินในช่วง covid ไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท จะไปกู้ธนาคารก็ไม่มีหลักทรัพย์และไม่สามารถจะไปกู้เพิ่มได้ ทุกอย่างหยุดชะงักหมด
นายเกษม สามีผู้เสียชีวิต บอกว่า ภรรยาประสบกับปัญหาสภาวะเศรษฐกิจหลังจากเกิด covid ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาธุรกิจหลายตัวที่ทำก็ขายไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อการท่องเที่ยวหยุดชะงัก ของฝากที่เคยขายให้นักท่องเที่ยวก็ขายไม่ได้ ทุกอย่างหยุดหมด พยายามปรับตัวหันมาทำเกษตรปลอดสารและทุกอย่าง แต่ก็ไม่ดีขึ้น จนไม่สามารถที่จะชำระหนี้สินที่มีอยู่ได้
“ยอมรับว่าเครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่คิดว่าภรรยาจะตัดสินใจแบบนี้ ส่วนที่ภรรยาขอรับบริจาคเงินนั้นก็สุดแต่ทุกท่านจะเห็นสมควรเพราะเป็นเจตนาของภรรยา”