ชัยนาท - เปิดป่าชุมชนเขาราวเทียนบ้านบุทางรถ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ตามรอยตำนานแหล่งกบดานเสือฝ้าย โจรร้ายในอดีต
สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยนาท จัดโครงการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงรุก กิจกรรมเส้นทางเที่ยวปลูกป่า กินอาหารถิ่น “เที่ยวแบบมีสตอรี่..ที่ชัยนาท” เพื่อสร้างกระแสรับรู้และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของจังหวัดชัยนาท โดยแนะนำการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ป่าชุมชนเขาราวเทียนบ้านบุทางรถ หมู่ที่ 5 ต.เด่นใหญ่ อ.หันคา จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของจังหวัดชัยนาท มีพืชสมุนไพรกว่า 170 ชนิด มีสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น นกยูง สุนัขจิ้งจอก กระต่ายป่า นกนานาชนิด และยังเคยเป็นแหล่งหลบซ่อนตัวของโจรร้ายในอดีตอย่างเสือฝ้าย เสือย่อม
นายวิรัช กันอ่ำ อายุ 45 ปี มัคคุเทศก์ภูมิภาคภาคกลาง สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ป่าชุมชนเขาราวเทียนบ้านบุทางรถ เป็นพื้นที่ป่าส่วนหนึ่งของป่าสงวนแห่งชาติเขาราวเทียน เป็นป่าที่ชาวบ้านในพื้นที่รอบเขาราวเทียน ช่วยกันอนุรักษ์และฟื้นฟูมากว่า 20 ปี จากสภาพเขาหัวโล้นกลายเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีพื้นที่ 1,440 ไร่ สูงจากระดับน้ำทะเล 286 เมตร นอกจากความสมบูรณ์ของผืนป่าแล้ว ป่าแห่งนี้ยังเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ของการต่อสู้ระหว่างผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ขุนพันธรักษ์ราชเดช กับกลุ่มโจรในอดีต เสือฝ้าย เสือย่อม ที่ใช้พื้นที่ป่าเขาราวเทียนเป็นจุดหลบซ่อนตัว ก่อนจะถูกปราบปราม ซึ่งการมีป่าชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ และมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ชาวบ้านชุมชนบ้านบุทางรถ จึงพัฒนาป่าชุมชนเขาราวเทียน ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
สำหรับโปรแกรมท่องเที่ยวป่าชุมชนเขาราวเทียนแห่งนี้ จะมีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น การเดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งจะมีให้เลือก 3 เส้นทาง ตามระยะทาง ได้แก่ 1.ระยะทาง 800 เมตร เพื่อไปชมความหลากหลายของพืชสมุนไพรต่างๆ ที่มีมากกว่า 170 ชนิด 2.ระยะทาง 1,700 เมตร ไปชมป่าไผ่รวก ที่โน้มตัวเข้าหากันจนดูคล้ายเป็นอุโมงค์ต้นไม้ ที่เกิดจากธรรมชาติสร้างสรรค์อย่างสวยงาม เส้นทางนี้ยังเป็นเส้นทางตามรอยตำนานแหล่งหลบซ่อนตัวของกลุ่มโจร หรือเหล่าเสือร้ายภาคกลางในอดีต ทั้งเสือฝ้าย เสือย่อม ที่เข้าไปหลบซ่อนตัวในถ้ำ และสร้างเพิงพักบนเขาราวเทียน ก่อนที่จะถูกขุนพันธรักษ์ราชเดช ผู้พิทักษ์สินติราษฎร์นำกำลังเข้าปราบปราม 3.ระยะทาง 2,000 เมตร เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่โหดและวิบากที่สุด เพราะจะขึ้นไปบนจุดสูงสุดของจังหวัดชัยนาท แต่จะได้ชมวิวแบบ 360 องศา มองไปได้ไกลถึงจังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดสุพรรณบุรี และหากไปในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จะได้ชมดอกกระเจียวป่าที่ออกดอกเต็มยอดเขา ทั้งนี้ ในการเดินป่าดังกล่าวจะมีปราชญ์ชาวบ้าน และอดีตนายพรานที่มีความเชี่ยวชาญในการเดินป่า เป็นผู้นำทางและให้ความรู้เกี่ยวกับป่าตลอดเส้นทาง
แต่หากนักท่องเที่ยวไม่สันทัดการเดินป่า สามารถเลือกทำกิจกรรมอื่นๆ แทนได้ เช่น การปลูกป่า การทำฝายชะลอน้ำ และการบวชป่า ด้วยการนำผ้าเหลืองไปผูกต้นไม้ เพื่อเป็นกุศโลบาย ยกต้นไม้ให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ป้องกันการถูกทำลาย นอกจากนี้ ชาวบ้านในชุมชนยังนำผลผลิตที่เก็บได้จากป่า เช่น หน่อไม้รวก เห็ดโคน น้ำผึ้ง และผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอปต่างๆ นำมาจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อในราคาย่อมเยา ซึ่งสามารถไปเที่ยวได้ทั้งแบบครอบครัว หรือแบบกลุ่มไม่เกิน 30 คน สอบถามรายละเอียดการท่องเที่ยวได้ที่ นายมนัส ม่วงเกิด ประธานเครือข่ายป่าชุมชนเขาราวเทียนบ้านบุทางรถ หมายเลขโทรศัพท์ 09-8816-7346
