xs
xsm
sm
md
lg

ทั้งหวานทั้งน่าทึ่ง! หนุ่มภูกามยาวสกัด “ฟีโรโมน” เปิดรีสอร์ตล่อผึ้งป่าทำน้ำผึ้งเดือนห้าขายได้ทั้งปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พะเยา - ผึ้งพลิกชีวิต..อดีตครูเก่าหนุ่มภูกามยาว เมืองกว๊านพะเยา-ศิษย์เก่าเกษตรฯ มช. ค้นคว้าจนพบ-ส่งแล็บสกัด “ฟีโรโมนนางพญาผึ้ง” ฉีดล่อผึ้งป่าเข้ารีสอร์ตผึ้งที่สร้างเรียงกันเป็นตับ ผลิตน้ำผึ้งเดือน 5 แท้ 100% ขายได้ปีละเป็นล้านบาท ล้างหนี้-สร้างตัวได้สบาย


ขณะนี้ชาวบ้านหาดแฟน ต.อิงโค้ง อ.ภูกามยาว จ.พะเยา ที่มีอยู่กว่า 100 หลังคาเรือน..แทบทุกบ้านล้วนตั้งรังเลี้ยงผึ้งป่าไว้ในบริเวณบ้านตัวเองไม่ต่ำกว่า 1 รัง มีน้ำผึ้งเดือน 5 ไว้บริโภคเองภายในบ้านไม่ต้องพึ่งความหวานจากน้ำตาลสังเคราะห์

หลัง นายสยาม สกุณา หนุ่มวัย 47 ปี ศิษย์เก่าเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) อดีตครูเกษตร ที่แสวงหา-คิดค้น “ฟีโรโมนนางพญาผึ้ง” มาใช้เป็นตัวล่อ สร้างรีสอร์ตให้ผึ้งป่าเข้ารังทำงานผลิตน้ำหวานแทนคน จนสามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวเป็นกอบเป็นกำ ได้สร้างรังพร้อมฟีโรโมนแจกให้คนในชุมชนได้ทดลองเลี้ยง

นายสยามกล่าวว่า ตนเป็นศิษย์เก่าเกษตรฯ มช. เคยเป็นครูเกษตรอยู่ได้ 4-5 ปี ก็ลาออกมาทำนาในยุคนโยบายจำนำข้าว ลงทุนกู้เงินมาทำนาหลายร้อยไร่ กระทั่งเกิดการประท้วง ปฏิวัติ รัฐบาลใหม่ล้มเลิกนโยบายรับจำนำข้าว ปล่อยราคาลอยตัว จนราคาข้าวตกต่ำเหลือกิโลฯ ละ 4 บาทเศษ ทำให้ขาดทุนตกเป็นหนี้มากกว่า 3,000,000 บาท

“ช่วงนั้นยอมรับว่าจิตตกเลยทีเดียว เพราะจะกลับไปเป็นครูอีกก็ไม่ได้ แถมยังมีหนี้ก้อนโตติดตัวอีก ถึงขั้นหนีเจ้าหนี้เข้าป่าไปหลายวัน ก่อนไปเจอกลุ่มพรานผึ้งท้องถิ่น ก็ขอออกล่าผึ้งป่าไปกับเขา เดินหากันเป็น 10 วัน เจอบ้างไม่เจอบ้าง แต่ถ้าเจอรังหนึ่ง ก็เห็นชาวบ้านได้น้ำผึ้งไม่ต่ำกว่า 10-20 ขวด พอเอามาขายตามราคาชาวบ้านขวดละ 200-250 บาท ก็ได้เงินไม่น้อยกว่า 3,000-4,000 บาท ก็มองว่าเป็นรายได้ที่ดีไม่น้อย”

หลังจากนั้นเมื่อกลับบ้านก็เริ่มตระเวนล่าผึ้ง..พร้อมกับพยายามศึกษาแนวทางการเลี้ยงผึ้งป่า เพราะแค่รังเดียวก็ทำเงินได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท หากมีเป็นร้อยๆ รังขึ้นไปก็จะทำรายได้เพิ่มเป็นหลักแสนได้สบายๆ

แต่..เนื่องจากผึ้งป่ามีลักษณะนิสัยผิดกับผึ้งพันธุ์ ทำให้การเลี้ยงผึ้งป่าเป็นไปได้ยากมาก


นายสยามบอกว่า พยายามลองผิดลองถูกอยู่ 4-5 ปี ใช้ทั้งยางรถยนต์เก่า ท่อซีเมนต์ ลังไม้ ฯลฯ มาทำเป็นรังแล้วจับผึ้งป่ามาเลี้ยง พร้อมๆ กับออกล่าผึ้งป่าไปด้วย โดนผึ้งต่อยมาแบบนับไม่ถ้วน แต่เมื่อเอาเขามาเลี้ยงในรังแล้ว เขาไม่อยู่กับเราเพราะเขาไม่ชอบถูกบังคับ กระทั่งครั้งหนึ่งหลังเจอรังผึ้งในดิน ได้ขุดเอาน้ำผึ้ง และจับนางพญาผึ้งกลับมาด้วย

เมื่อนำนางพญาผึ้งกลับมาขังในรัง วันหนึ่งด้วยความบังเอิญ..ก็พบว่าหลังจากนางพญาผึ้งหลบหนีไปแล้ว ได้ทิ้งกลิ่นบางอย่างติดไว้ที่รัง ทำให้มีผึ้งตามมาทำรังเพิ่มขึ้น จึงพยายามศึกษา พร้อมกับพยายามให้ห้องแล็บพรรคพวกสกัดจนได้ “ฟีโรโมนผึ้ง” นำมาเป็นตัวล่อผึ้งทำรัง

จากนั้นก็ได้จำลองพื้นที่ม่อนปู่ยาในเขตบ้านของตัวเอง สร้างรีสอร์ตให้ผึ้งอยู่ตามธรรมชาติแบบผึ้งป่า เพราะในชุมชนและพื้นที่โดยรอบเป็นป่า มีแหล่งดอกไม้ป่าอยู่แล้ว ก่อนใช้ “ฟีโรโมนผึ้ง” ล่อให้ผึ้งมาทำรัง ค่อยๆ เรียนรู้และขยายรีสอร์ตผึ้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 10 เป็น 100 เป็น 1,000 รัง..ในที่สุดก็ทำให้สามารถดึงดูดผึ้งมาทำรังในรีสอร์ตผึ้งได้ทุกหลัง ผลิตน้ำผึ้งได้ปีละไม่ต่ำกว่า 3-4 ตัน ขายได้ตลอดทั้งปี ในราคาขายส่งตันละ 300,000 บาทเป็นอย่างต่ำ

“ตลอด 10 ปีมานี้ผมยึดอาชีพผลิตน้ำผึ้งป่า 100% ออกขายสร้างรายได้ภายใต้แบรนด์ม่อนปู่ยารักษ์ผึ้งป่า จนสามารถใช้หนี้สินที่เคยมี ยิ่งในช่วงเกิดโควิดแพร่ระบาด คนยิ่งแสวงหาน้ำผึ้งไปผสมสมุนไพรกินกันมากขึ้น ยิ่งขายได้จนไม่พอขาย ทำรายได้เพิ่มไปด้วย”


แต่การทำน้ำผึ้งของม่อนปู่ยารักษ์ผึ้งป่าจะทำเฉพาะ “น้ำผึ้งเดือน 5” เท่านั้น..โดยเริ่มล่อผึ้งเข้ารังตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้ป่าที่เป็นแหล่งอาหารของผึ้งตามธรรมชาติกำลังเบ่งบาน หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ผึ้งทำงานผลิตน้ำหวานแทนเรา จนถึงเมษายนก็จะได้ผลผลิตน้ำผึ้งที่เขาเรียกว่าน้ำผึ้งเดือน 5 ที่เป็นน้ำผึ้งคุณภาพดีมีกลิ่นหอมจากเกสรดอกไม้ธรรมชาติรสชาติหวาน

“ปกติทั่วไปผึ้งจะทำรังประมาณ 3 เดือนก็จะมีน้ำผึ้งแล้ว แต่ที่นี่จะเก็บน้ำผึ้งที่มีคุณภาพดีที่สุด คือน้ำผึ้งเดือน 5 จากผึ้งป่าเท่านั้น และจะไม่กินตัวอ่อน-ไม่ทำร้ายผึ้ง เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ผึ้งและผืนป่าด้วย”

นายสยามบอกว่า หลังจากทดลองและทำฟีโรโมนล่อผึ้งป่าเข้ารังจนสำเร็จเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ก็ได้พยายามเผยแพร่แนวทาง-วิธีการเลี้ยงผึ้งป่าดังกล่าวออกไป ด้วยการเปิดรีสอร์ตผึ้งป่าม่อนปู่ยาเป็นศูนย์เรียนรู้ แจกรังผึ้งให้ชาวบ้านในชุมชนได้เลี้ยง จนบ้านหาดแฟน ต.อิงโค้ง อ.ภูกามยาว ที่มีอยู่ร้อยกว่าหลังคาเรือน เลี้ยงผึ้งป่ากันทุกบ้านอย่างน้อยบ้านละ 1 รัง

นอกจากนี้ยังเป็นวิทยากรสอน-สร้างเครือข่ายผู้เลี้ยงผึ้งในพื้นที่ต่างๆ ทั้งใกล้และไกล จนมีการพัฒนาต่อยอดกลายเป็นวิสาหกิจชุมชนแล้วหลายพื้นที่ เช่น เขต อ.จุน ก็มีวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งระดับ 1,000 รังขึ้นไปแล้ว 2 แห่ง เชียงคำ-ภูซางก็มีหลายราย รวมถึงภูมิภาคอื่นๆ ด้วย เพราะตลาดน้ำผึ้งป่าจนถึงวันนี้ยังโตได้แบบไม่มีลิมิต


“ตอนนี้น้ำผึ้งเดือน 5 ม่อนปู่ยารักษ์ผึ้งป่าขายปลีกกันขวดละ 400 บาท ผลผลิตที่ได้มีทั้งลูกค้าที่สั่งจองไว้และขาประจำมาซื้อแทบจะไม่พอขาย ซึ่งผู้ที่สนใจสั่งซื้อและเข้าศึกษาวิธีการเลี้ยงผึ้งป่าแบบธรรมชาติ 100% สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 06-5006-9870”










กำลังโหลดความคิดเห็น