สระแก้ว - กธจ.สระแก้ว เรียกร้องคนพื้นที่แสดงพลังจี้รัฐแก้ไขมติ ครม.อ้างพื้นที่มรดกโลก จนต้องระงับการขยายถนนทางหลวงแผ่นดิน 348 ชี้ช่องเขาตะโก เกิดอุบัติเหตุซ้ำซากจนได้รับฉายาถนน 100 ศพ สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมหาศาล
จากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถ 6 ล้อ ซึ่งบรรทุกเกลือมาเต็มคันเฉี่ยวชนกับรถยนต์กระบะจนพุ่งตกข้างทางบริเวณเขาช่องตะโก ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 348 (สระแก้ว-บุรีรัมย์) อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ลุกท่วม
และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นคนที่โดยสารมากับรถกระบะ 2 ราย และผู้โดยสารรถ 6 ล้อ 1 ราย นอกจากนั้น ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 07.47 น.วันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด นายสมิทธิ์ เย็นสบาย ในฐานะกรรมการธรรมาภิบาล จ.สระแก้ว และองค์กรสมาชิกสมัชชาสิ่งแวดล้อม ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นซ้ำซากบริเวณช่องเขาตะโก ว่า ที่ผ่านมามักจะได้รับการร้องเรียนจากชาวสระแก้วทั้งทางอ้อม และทางตรง เรื่องความเดือดร้อนจากการใช้เส้นทางดังกล่าว
และจากการพูดคุยกับหลายหน่วยงานในพื้นที่ต่างให้ความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ปัญหาอุบัติเหตุซ้ำซากที่เกิดขึ้นมาจากหน่วยงานมรดกโลก ที่มีมติไม่เห็นชอบให้ทำการขยายถนนช่วง 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา ที่ถูกควบรวมให้เป็นพื้นที่มรดกโลกเขาใหญ่-ดงพญาเย็น จนทำให้ถนนบริเวณดังกล่าวมีความแคบ และบังคับให้รถยนต์ต้องวิ่งสวนทางกัน
“ที่ผ่านมา กรรมการธรรมาภิบาล จ.สระแก้ว ได้เข้าพบปะกับ นายมาโนช วีระกุล ประธานที่ปรึกษามรดกโลก ที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นชาวสระแก้วด้วยกันเพื่อชี้แจงถึงความจำเป็นในการขยายถนนบริเวณดังกล่าว ซึ่งได้รับคำชี้แจงว่า สาเหตุที่คณะกรรมการมรดกโลกไม่เห็นชอบให้ทำการขยายถนนเพราะการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอของบริษัทที่ปรึกษาอาจจะยังไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่า-ป่าไม้ และระบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ”
ขณะที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เสนอรายงานเรื่องมรดกโลก และขอมติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2560 มีมติว่าให้ระงับการขยายเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 348 (สระแก้ว-บุรีรัมย์) ในกลุ่มป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่ หรือช่องตะโก ไว้ก่อน และให้ทบทวนการก่อสร้างด้วยการพิจารณาให้ดำเนินการเส้นทางอื่นแทน
"กรณีนี้ถือเป็นการตอกฝาโลงด้วยมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งหมายความว่าถนนสายดังกล่าวจะทำการสำรวจใหม่ไม่ได้แล้ว อย่าว่าแต่จะขยายถนนใดๆ เลย"
นายสมิทธิ์ ยังแสดความคิดเห็นส่วนตัวว่า น่าเสียดายที่ จ.สระแก้ว ขาดการรวมพลังกันอย่างจริงจังเพื่อเรียกร้องให้เกิดการขยายถนนบริเวณช่องเขาตะโก จนทำให้ที่ผ่านมาต้องเกิดความสูญเสียและความเสียหายทางเศรษฐกิจจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างซ้ำซาก คิดเป็นมูลค่ามหาศาล
โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่จะมีผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก พร้อมเรียกร้องให้ชาวสระแก้ว ออกมาแสดงพลังเพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขมติ ครม.เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560
"รัฐบาลชุดนี้แปลกมากห่วงแต่เรื่องมรดกโลก แต่ไม่ห่วงชีวิต ทรัพย์สิน และเศรษฐกิจของประชาชน ซึ่งไม่ทราบว่าคนที่ขัดขวางและไม่ยอมให้มีการแก้มติ ครม.ในเรื่องนี้เขาใช้อะไรคิด" นายสมิทธิ์ กล่าว
