กาฬสินธุ์ - ชาวนากาฬสินธุ์รวมกลุ่มตั้งทีมรับจ้างเกี่ยวข้าวด้วยมือ หวังบรรเทาความเดือดร้อนเพื่อนชาวนาประสบปัญหาค่ารถเกี่ยวแพงไร่ละ 1,000 บาท คิดค่าแรงเพียงวันละ 300 บาท พร้อมค่าอาหาร 2 มื้อเช้า-เที่ยง และรถรับ-ส่งฟรี
บรรยากาศการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี ของชาวนาใน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นช่วงเมล็ดข้าวได้อายุเก็บเกี่ยวเต็มที่ ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้เมล็ดข้าวแห้งกรอบ รวงเริ่มหัก และตกหล่น โดยพบชาวนานอกเขตชลประทานที่อาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ความชุ่มชื้นในดินมีน้อย ได้เก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว โดยจ้างรถเกี่ยวสูงเฉลี่ยไร่ละ 800-1,000 บาท
ขณะที่ชาวนาในเขตใช้น้ำชลประทานเขื่อนลำปาว และมีพื้นที่นาหลายไร่ ความชื้นในดินสูง เมล็ดข้าวจึงแก่ช้ากว่าพื้นที่นอกเขตชลประทาน แต่ก็เริ่มแห้งกรอบ เนื่องจากกลางวันแดดร้อนจัด เมล็ดข้าวจึงแก่เร็ว รวมทั้งยังรอคิวรถเกี่ยว ซึ่งคิวยังไม่ว่างมาเกี่ยวให้ โดยยังคิดอัตราค่าจ้างสูงไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าวอ้างว่าน้ำมันแพง เกี่ยวยาก เนื่องจากข้าวล้ม และเป็นโคลนตมมีน้ำขัง จึงต้องคิดราคาค่าจ้างสูงดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านต้องตั้งทีมรับจ้างเกี่ยวข้าวด้วยมือเพื่อช่วยเพื่อนชาวนาที่ต้องจ่ายค่ารถเกี่ยวที่สูง
นางวะ ตะวงษา อายุ 64 ปี ชาวนาบ้านหนองกุง ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า แปลงนาตนอยู่นอกเขตใช้น้ำชลประทาน หลังจ้างรถเกี่ยวข้าวเสร็จ ได้ชักชวนญาติพี่น้องลูกหลาน จำนวน 25 คนตั้งทีมรับจ้างเกี่ยวข้าว ชื่อทีม “ยายเหี่ยว สุดสวย” ซึ่งชื่อยายเหี่ยวนั้นเป็นชื่อเล่นของตน โดยมีเงื่อนไขกับชาวนาหรือผู้จ้างที่ติดต่อว่าจ้าง ขอค่าแรงวันละ 300 บาท แถมเลี้ยงอาหารมื้อเช้ากับมื้อเที่ยง และรถรับส่งฟรี
ปีนี้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำมาก เฉลี่ยข้าวเกี่ยวสดนำไปขายได้กิโลกรัมละ 5-6 บาท ข้าวเปลือกแห้ง 7 บาท สำหรับปีนี้ตนไม่คิดหวังรายได้จากการขายข้าวเลย เพราะมีที่นา 4 ไร่ จ้างรถเกี่ยวไร่ละ 800 บาท รวม 3,200 บาท ค่าปุ๋ยเคมี ค่าไถ ค่าเสียโอกาสไม่ต้องพูดถึงเลย ขาดทุนยับเยิน ดังนั้นหลังจากจ้างรถเกี่ยวข้าวเสร็จจึงชักชวนญาติพี่น้องลูกหลานตั้งทีมยายเหี่ยว สุดสวย รับจ้างเกี่ยวข้าวด้วยมือดังกล่าว
ตนและญาติพี่น้องตั้งทีมรับจ้างมาหลายปี ตั้งแต่สมัยค่าแรงวันละ 50 บาท ทั้งถอนกล้า ปักดำ และเกี่ยวข้าว โดยจะตระเวนรับจ้างในเขตใช้น้ำชลประทาน ที่ชาวนามีที่นาหลายไร่ และผลิตเมล็ดพันธุ์ให้กับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว เพราะเห็นใจและบรรเทาความเดือดร้อนแก่เพื่อนชาวนาที่แบกรับค่าใช้จ่ายแพง จึงคิดค่าแรงเพียงวันละ 300 บาท แต่ขอให้ทางเจ้าภาพรับส่งและเลี้ยงอาหาร 2 มื้อดังกล่าว
ด้านนายสาคร ภูนาสี อายุ 66 ปี ชาวนาบ้านตูม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนมีที่นา 20 ไร่ เป็นสมาชิกศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ ผลิตเมล็ดพันธุ์ให้กับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว เป็นการทำนาดำ จึงทำหลายขั้นตอน ทั้งหว่านเมล็ดพันธุ์ ถอนกล้า ปักดำ เกี่ยวด้วยมือ ซึ่งทุกขั้นตอนเป็นการจ้างแรงงานทั้งหมด หากรวมกับค่าปุ๋ยเคมี ต้นทุนการผลิตต่อไร่สูงมากถึงไร่ละ 7,000 บาท
ปีที่ผ่านมาขายผลผลิตข้าวเปลือกเฉลี่ยกิโลกรัมละ 20 บาท รายได้พอคุ้มทุน แต่ปีนี้ยังไม่ทราบราคา เนื่องจากรอทางศูนย์เมล็ดพันธุ์ฯ แจ้งราคาหลังตรวจคุณภาพเมล็ดข้าว ทั้งนี้การเก็บเกี่ยวข้าวได้จ้างแรงงานเกี่ยวมือ และขอความร่วมมือคนงานคัดแยกพันธุ์ปลอมปนเพื่อคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ด้วย