กาฬสินธุ์ - ชาวนากาฬสินธุ์โอดข้าวเปลือกราคาสุดตกต่ำ เผยข้าวเปลือกเหนียวขายได้แค่กิโลกรัมละ 5-6 บาท ถูกกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ชี้ขาดทุนหนัก เงินไม่พอใช้หนี้ ธ.ก.ส. ปุ๋ยเคมี ปีหน้าอาจต้องเลิกทำนา วอนรัฐช่วยชาวนาด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาที่ จ.กาฬสินธุ์ในช่วงนี้เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมแล้ว ชาวนาต่างนำผลผลิตจำหน่ายตามลานรับซื้อทั่วไป ซึ่งบรรยากาศเริ่มคึกคักขึ้น โดยเฉพาะที่ตลาดกลางข้าวและพืชไร่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีเสียงโอดครวญจากชาวนาว่าราคารับซื้อข้าวเปลือกตกต่ำกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะข้าวเปลือกเหนียวราคารับซื้อตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 5 บาทถูกกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ชาวนาขาดทุนซ้ำซากทุกปี อยากเรียกร้องให้รัฐบาลและนายทุนเพิ่มราคารับซื้อให้ด้วย
นายไพบูลย์ ภูเต้าทอง อายุ 53 ปี ชาวนาบ้านโนนศิลาอาสน์ ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า วันนี้ตนนำข้าวเจ้ามะลิ กข.15 หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าข้าวดอ ได้ราคากิโลกรัมละ 8.10 บาท หรือตันละ 8,100 บาท ได้เงินหมื่นกว่าบาท แต่เมื่อหักต้นทุนการผลิต ทั้งค่าเมล็ดพันธุ์ ค่ารถไถ ค่าปุ๋ย ค่าเกี่ยว ค่าขนส่งแล้ว สรุปคือขาดทุน อยากให้รัฐบาลช่วยปรับราคารับซื้อข้าวเปลือกให้สูงกว่านี้ด้วย เพราะหากรับซื้อเท่านี้ชาวนาไม่มีวันลืมตาอ้าปากได้แน่ หากรับซื้อที่ราคา กก.ละ 10 บาทขึ้นไปก็ยังจะมีทุนพอสู้ต่อได้
ด้านนายบัณฑิต ภูบุตรตะ อายุ 53 ปี ชาวนาบ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเพิ่งนำข้าวเปลือกเหนียว กข.22 ไปขาย ได้ราคา กก.ละ 5.50 บาท ถูกกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หักรายจ่ายแล้วช้ำใจ เพราะไม่เหลือจ่ายค่าปุ๋ยเคมี ไม่มีเงินไปใช้หนี้ ธ.ก.ส. ถึงแม้ผลผลิตข้าวจะได้ไร่ละ 400 กก. แต่ต้นทุนผลิตสูง โดยเฉพาะค่าปุ๋ยเคมีและค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 800 บาท จึงไม่เหลือติดไม้ติดมือเลย
อย่างไรก็ตาม ยังหวังว่าราคาขายข้าวนาปี หรือข้าวเหนียว กข. 6 ราคาจะสูงขึ้นไม่น้อยกว่า กก.ละ 7-9 บาท ซึ่งจะทำให้พอมีกำไรและมีเงินทุนทำนาต่อไป แต่หากราคายังอยู่ที่ กก.ละ 5-6 บาท ชาวนาขาดทุนหนัก หากยังเป็นแบบนี้เห็นทีปีต่อไปคงเลิกทำนา ฝืนทำนาก็คงขาดทุนหนักอีก คงต้องทิ้งให้นาร้าง ปล่อยน้ำ ปล่อยปลา พอได้เป็นอาหารกินประทังชีวิตไป
ขณะที่ นายธนาพล ธรรมโนขจิต ผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์รับซื้อข้าวเปลือกช่วงนี้ส่วนมากเป็นข้าวเหนียว กข.22 ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวสำหรับเพาะปลูกนาปรัง หรือข้าวฤดูแล้ง และข้าวเจ้ามะลิ กข.15 ส่วนข้าวนาปีหรือข้าวเหนียว กข.6 และข้าวเจ้ามะลิ 105 ผลผลิตยังไม่เก็บเกี่ยว คาดจะเริ่มกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ราคารับซื้อผลผลิตข้าวทั้ง 2 ชนิดจึงอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ ตามคุณภาพข้าว
ราคารับซื้อช่วงนี้ ซึ่งเป็นข้าวเกี่ยวสด โดยข้าวเหนียว กข.22 สด กก.ละ 5.50-6 บาท แห้ง 7.8-8 บาท ขณะที่ข้าวเจ้า กข.15 สด 8-8.50 บาท แห้ง 10.5-11 บาท ทั้งนี้ราคารับซื้อข้าวเปลือกนาปีที่จะถึงนี้ยังไม่เผยออกมาเนื่องจากยังไม่มีผลผลิตออกมา แต่คาดว่าราคาจะลดลงกว่าปีที่ผ่านมาอีกตันละ 1,000 บาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากการเกิดสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 เช่นธุรกิจการท่องเที่ยว ร้านอาหารปิดกิจการ ความต้องการใช้ข้าวลดลง จึงส่งผลให้ราคารับซื้อข้าวเปลือกยังต่ำอยู่
