สระบุรี - ชาวนา อ.เสาไห้ระทม หลังแหล่งรับซื้อข้าวกดราคาข้าวเปลือกตามใจชอบ ขณะที่ผลผลิตถึงฤดูเก็บเกี่ยวแล้วแต่ยังไร้ทิศทาง ที่ทำให้ชาวนาเชื่อมั่นกับ ราคาข้าวเปลือกว่าจะขายได้ราคาเท่าไหร่ ที่ทำให้ชาวนาอยู่รอดได้ในช่วงวิกฤตนี้
จากกระแสสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกตกต่ำชาวนาที่มีอาชีพปลูกข้าวหล่อเลี้ยง เศรษฐกิจมายาวนานปัจจุบันนี้ เกิดผลกระทบไปทั่วประเทศ ซึ่งโดยเฉพาะ ชาวนาในพื้นที่อำเภอเสาไห้ จ.สระบุรี ช่วงนี้อยู่ระหว่างเก็บเกี่ยวผลผลิตแต่กลับไม่มีทิศทางที่ทำให้ชาวนาเชื่อมั่นกับ ราคาข้าวเปลือกว่าจะขายได้ ราคา เท่าไหล่ ที่ ทำให้ชาวนา จะอยู่รอดได้ ในช่วงนี้
นาย เดชา มะโนแจ่ม เกษตรกรปลูกข้าว เผยว่าทุกวันนี้ชาวนาต้องแห่ข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวไปตามแหล่งรับซื้อในพื้นที่ ที่คาดว่าจะได้ราคาสูงขึ้นบ้าง กับแหล่งรับซื้อข้าวเปลือกที่ชาวนาเคยนำไปขายประจำ เนื่องจากช่วงนี้ข้าวเปลือกขายยากขึ้น จากผลกระทบราคาข้าวตกต่ำส่วนข้าวเปลือกที่มีคุณภาพ เกรดดี ก็จะถูก แหล่งรับซื้อกดราคาจากการหักความชื้น ซึ่งก็จะได้ราคาประมาณ 7,000 บาท ต่อเกวียน แต่หากเป็นข้าวที่เกรดต่ำลงราคา หลังหักความชื้นแล้วราคาจะอยู่ที่ ประมาณไม่เกิน 6,000 บาท ซึ่งทางแหล่งรับซื้อ ในช่วงนี้ถือเป็นโอกาส ในการต่อรองราคาผลผลิตของชาวนา
ส่วนปัญหาราคาข้าวตกต่ำขายไม่ได้ราคา ตนเองไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุใด ผลผลิต ที่ชาวนาปลูกในแต่ละฤดูกาลก็ไม่ได้ มีผลกระทบ ถึงกับข้าวล้นตลาดซึ่งตนเอง มองว่า อาจเป็นเพราะเศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ดี จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด19 ทำให้ เกิดผลกระทบราคาข้าวตกต่ำลง ส่วนผลกระทบหลัก ๆ ที่เกิดกับชาวนามาจากต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายในการปลูกข้าวแต่ละครั้งที่ต้องจัดซื้อหาเวชภัณฑ์ อย่างปุ๋ยที่มีราคาสูง รวมไปถึง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ประกอบกับช่วงนี้ราคาข้าวตกต่ำ ทำให้ ชาวนา ไม่มีทางเลือก อื่นจำใจ ต้องขายข้าว ตามสภาพที่แหล่งรับซื้อกำหนด ตามความพอใจ จึงขอให้ทางภาครัฐช่วย ตรึงราคาข้าวเปลือก ตามแหล่งรับซื้อ อย่างต่ำ อยู่ที่ 8,000 บาท
ซึ่งจะทำให้ชาวนาที่ปลูกข้าวอยู่รอดได้ จากสภาวะเศรษฐกิจในช่วง นี้อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์ ควร แจ้ง ราคารับซื้อ ข้าวเปลือก ตามสภาวะเศรษฐกิจ ปัจจุบัน ให้กับ ชาวนาและแหล่งรับซื้อให้ ชัดเจน ด้วย การแจ้งราคา มาตรฐาน เพื่อกำหนดราคารับซื้อ แหล่งรับซื้อข้าว ด้วยการติดป้าย แจ้งราคา ข้าวเปลือก ทุกชนิด ให้เกษตรกร รับรู้ และค่ามาตรฐาน การหักความชื้น ข้าวเปลือก หรือปรับ ค่าความชื้นให้สมดุล กับ สภาพอากาศ ในท้องถิ่นรวมไปถึง คุณภาพพันธ์ข้าวเปลือก หลังเก็บเกี่ยวแล้ว เพื่อลดการเอารัดเอาเปรียบ ราคาข้าว ของแหล่งรับซื้อในพื้นที่ ซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งที่สามารถช่วยเหลือชาวนาได้บ้าง ซึ่งทุกวันนี้ราคาข้าวเปลือกแลย กิโลกรัมละ 6 -7บาท
ด้านนางสมปอง โมทินา 63 ปี ชาวนา ในพื้นที่อำเภอเสาไห้เล่าว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ทางแหล่งรับซื้อ บอกกับตนเอง ว่าเกิดจากสาเหตุ ราคาประกันข้าวที่ทางรัฐบาล อุดหนุน หากราคาประกันต่ำ ลง ทางเกษตรกรที่ปลูกข้าว จะได้เงินชดเชยในราคา ที่สูงขึ้น แต่กับเป็นว่าราคาขาย ข้าวเปลือก ที่ชาวนาขายตามแหล่ง รับซื้อในพื้นที่ ถูกกดราคา ตนเอง มองว่าชาวนา ขายข้าวให้กับ แหล่งรับซื้อไม่ใช่ขายให้กับรัฐบาล รัฐบาลแค่ อุดหนุนราคาประกัน ซึ่งตนเองต้องการ ขาย ในพื้นที่ตามแหล่งรับซื้อ ที่ให้ราคาข้าวสูง มากกว่า อย่างน้อยชาวนา จะได้รับเงิน ทันทีไม่ต้องรอให้ภาครัฐนำเงินแผ่นดินมาช่วยอุดหนุนด้านประกันราคาข้าวหรือให้ชาวนาสามารถจำนำข้าวได้บ้างซึ่งขอให้ชาวนามีทางเลือกบ้าง
อีกทั้งแหล่งรับซื้อจะคัดเลือก ข้าวที่มีผู้บริโภคสูงและสามารถเลือกซื้อข้าวกับชาวนาได้ซึ่งชาวนาจะได้ ราคาดีกว่าพันธ์ข้าวอื่นๆ แต่ช่วงนี้พันธ์ข้าวเกือบทุกชนิด ถูกกดราคาลงทำให้ ชาวนา เดือดร้อนส่วนชาวนาที่เก็บเกี่ยวข้าวช่วงนี้ต้องรีบขายซึ่งเป็นช่องทางให้ แหล่งรับซื้อเอาเปรียบ เนื่องจากชาวนา ไม่มีแหล่ง ตากข้าว เพื่อลดความชื้น ในพื้นที่ รวมถึงเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วต้องรีบขาย เพื่อนำเงินมาจุลเจือ ครอบครัว และใช้หนี้สิน ที่ ยังค้างอยู่ จึงจำใจต้องขายตาม ราคา ที่ทาง แหล่งรับซื้อกำหนด ราคา ด้วยการหักความชื้น และ คุณภาพข้าวเมล็ดข้าว และพันธ์ข้าว ที่ ต้องถูกหัก ออก ตามกำหนดราคา แหล่งรับซื้ออย่างไม่เป็นธรรม
อีกทั้งทางรัฐบาลจะชดเชย ประกันราคาข้าวกับชาวนาที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น ซึ่ง อ้างอิงจากฐานข้อมูล จาก ทะเบียนบ้านได้เพียง 1แห่ง เท่านั้น ทำให้ชาวนาที่ไม่สามารถลงทะเบียน ประกันราคาข้าวได้ต้องเสียสิทธิประโยชน์หลายราย อีกทั้ง หนี้สินที่ต้องกู้เงิน มาปลูกข้าวทำให้ ชาวนาที่บอกว่าเป็น กระดูกสันหลังของชาติ จะอยู่ไม่รอด ซึ่งคาดว่าอนาคตชาวนาคงต้องเปลี่ยนอาชีพ หรือหยุด ทำนา หาก สภาวะเศรษฐกิจราคาข้าวตกต่ำต่อเนื่อง และยังไม่ได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานภาครัฐ
ผู้สื่อข่าวได้ ไปสำรวจ บริเวณ แห่งรับซื้อซึ่งเป็นสหกรณ์ ในพื้นที่ พบว่า ชาวนามีการ นำข้าวเปลือกเข้ามาขายให้ แหล่งรับซื้อกันอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่มีป้ายแสดงราคามาตรฐานในการรับซื้อข้าวจากชาวนา อีกทั้งทางผู้ดูแล สถานที่กับ ไม่ให้ข้อมูลกรณีราคารับซื้อ แต่อย่างใด โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไป สอบถามรายละเอียด หรือสาเหตุจากราคาข้าวตกต่ำโดยอ้างว่าไม่ต้องการให้มีการ นำเสนอข่าว เรื่องนี้ ซึ่งทางแหล่งรับซื้อข้าวเปลือกในพื้นที่มองว่าสถานการณ์ราคาข้าวตกต่ำช่วงนี้เป็นสภาวะการซื้อขายปกติ