กาญจนบุรี - ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เผยเตรียมทุบทิ้งรีสอร์ตหรูราคา30 ล้านบาท ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมนำคณะลงพื้นที่ปลูกต้นไม้คืนผืนป่าให้อุทยานฯ
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายคณิสรา เชษฐบัณฑิตย์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ นายยุทธพงศ์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้เดินทางไปตรวจสอบรีสอร์ตหรูขนาดใหญ่ ราคา 30 ล้านบาท "สวนพิศตะวันรีสอร์ต" เพื่อเตรียมรื้อถอนทุบทิ้งให้พ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
เนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ส.ค.57 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันออกปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ในเขตท้องที่ป่าท่าแพขนานยนต์ หมู่ที่ 6 ตำบลด่านแม่แฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี พบบ้านพักตากอากาศชื่อ พิศตะวันรีสอร์ต หมู่ที่ 6 ตำบลด่านแม่แฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
โดยมีนายสมภพ มีชูเวท เป็นผู้ครอบครอง เจ้าหน้าที่ตรวจวัดพื้นที่รอบแปลงด้วย GPS คำนวณเนื้อที่ได้ 20 ไร่ พบสิ่งปลูกสร้างลักษณะรีสอร์ตขนาดใหญ่ จำนวน 17 รายการ ราคา 30 ล้านบาท อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จึงได้แจ้งความนายสมภพ มีชูเวศ เจ้าของรีสอร์ต มีความผิดฐานบุกรุก ยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรด่านแม่แฉลบ จังหวัดกาญจนบุรี
ต่อมา อัยการจังหวัดกาญจนบุรี มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาเพราะขาดเจตนา กรมอุทยานฯได้ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 954,307 บาท ต่อมานายสมภพ มีชูเวท ถึงแความตาย และได้มีนางพิศมัย มีชูเวท เป็นผู้จัดการมรดกแทน โดยพนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ยื่นฟ้องนางพิศมัย มีชูเวท ผู้จัดการมรดก เป็นคดีความแพ่ง คดีหมายเลขดำ ที่ 96/2561 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2561 ในระหว่างการพิจารณาของศาล นางพิศมัย ได้ขอเจรจาไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายในการบุกรุกป่าให้กรมอุทยานฯ เป็นเงิน 600,000 บาท และผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี ตามคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 960/2561 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2561
สำหรับคดีทางปกครอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ออกคำสั่งที่ 71/2557 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2557 ให้ผู้กระทำผิดทำลายหรือสิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน หรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากสภาพเดิมออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ หรือทำให้สิ่งนั้นกลับสู่สภาพเดิมแล้วแต่กรณี ภายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2557 ตามความมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504
และมีหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้กระทำผิดรื้อถอน ฉบับลงวันที่ 10 ตุลาคม 2557 ต่อมาผู้กระทำผิดได้ยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง โดยมีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในคดีหมายเลขดำที่ ส. 14/2558 โดยศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษา ลงวันที่ 23 กันยายน 2564 ในคดีหมายเลขแดงที่ 154/2560 โดยศาลปกครองมีคำพิพากษา ให้รื้อถอนรีสอร์ต ดังกล่าวได้ โดยนางพิศมัย มีชูเวท ผู้จัดการมรดกไม่ได้อุทธรณ์ คดีปกครองถึงที่สุด
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากคดีนี้แล้ว ยังมีกรณีของบ้านพักตากอากาศหรูคู่แฝดจำนวน 2 หลัง มูลค่า 5 ล้านบาท ของนายเชิดชู ทองชีวงค์ กับพวกรวม 10 คน ที่ได้ปลูกสร้างคร่อมลำธาร บุกรุก ยึดถือครอบครอง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์โดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณป่าบ้านแม่กว้า หมู่ที่ 1 ตำบลแม่กระบุง อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
ต่อมา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้แจ้งความส่งดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ และได้มีคำสั่งให้รื้อถอนบ้านพักตากอากาศหรูดังกล่าว ซึ่งนายเชิดชู ได้ยินยอมรื้อถอนด้วยตนเองโดยได้นำคนงาน และเครื่องจักรเข้ามาทุบรื้อถอนตัวอาคาร และใช้รถแบ็กโฮตักซากอาคาร ใส่รถ 10 ล้อขนออกจากนอกพื้นที่ไปจนหมดตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.64 ถึง 8 พ.ย. 2564 ซึ่งใช้เวลารื้อถอนบ้านพักตากอากาศหรูคู่แฝดภายใน 1 เดือน
วันนี้เจ้าหน้าที่จึงได้นำพื้นที่ดังกล่าวที่ยึดคืนมาได้นำมาปลูกป่า ภายใต้โครงการปลูกป่าเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และป้องกันไฟป่า โดยการปลูกไม้ป่า อันได้แก่ มะค่าโมง ประดู่ป่า ยางนา ตะแบก
จำนวน 200 กล้า เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าให้เป็นแหล่งต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ของประชาชนทุกคน