xs
xsm
sm
md
lg

จ่อปิดบัญชีจำนำปีหน้า คาดเจ๊ง 5 แสนล้าน อคส.ชง นบข.ขายข้าวตกค้าง 2.2 แสนตัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อคส.เตรียมชง นบข.เร็วๆ นี้ไฟเขียวขายข้าวในสต๊อกที่ตกค้างล็อตสุดท้าย 2.2 แสนตัน ตั้งเป้าเคลียร์จบภายใน ก.ย. 65 เผยหลังขายหมดแล้วจะสามารถปิดบัญชีโครงการรับจำนำได้ เบื้องต้นคาดขาดทุนมากกว่า 5 แสนล้านบาท เหตุมีการทุจริตหนัก ยังไม่รวมผลขาดทุนจากการขายข้าวราคาต่ำและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เผยล่าสุดส่งฟ้องแล้วรวม 1,143 คดี พร้อมตั้งคณะทำงานติดตาม ส่วนมันสำปะหลังกำลังจะปิดบัญชี คาดขาดทุนหลักหมื่นล้าน

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ อคส.จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน พิจารณาอนุมัติให้ อคส.ระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี และข้าวเปลือกนาปรังของรัฐบาลที่ผ่านๆ มา ที่ยังเหลือข้าวสารในส่วนที่ อคส. ดูแลอีกประมาณ 2.2 แสนตัน โดยส่วนใหญ่เป็นข้าวเหนียว ข้าวหอมมะลิ และข้าวเสื่อมที่คนไม่สามารถบริโภคได้แล้ว ต้องขายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่คนและสัตว์บริโภค ซึ่งหาก นบข.อนุมัติแล้ว อคส.ต้องใช้เวลาอีกกว่า 6 เดือนเพื่อดำเนินการประมูล และส่งมอบให้ผู้ชนะประมูล โดยตั้งเป้าหมายระบายให้หมดภายในเดือน ก.ย. 2565

ทั้งนี้ หลังจากเปิดระบายจนหมดแล้วจะทำให้สามารถปิดบัญชีโครงการรับจำนำได้ และจะทราบว่า รัฐบาลมีผลขาดทุนเท่าไร โดยเบื้องต้นอาจมีผลขาดทุนมากกว่า 5 แสนล้านบาท จากการทุจริตในโครงการจำนำข้าวเปลือกนาปี และนาปรังปีการผลิต 2554-57 ซึ่ง อคส.ได้ส่งฟ้องร้องดำเนินคดีไปแล้วในช่วงรัฐบาล คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) รวม 1,143 คดี ราว 5 แสนล้านบาท ยังไม่รวมผลขาดทุนจากในช่วงที่ผ่านมา รัฐได้เปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกซึ่งขายราคาต่ำกว่าราคารับจำนำ เพราะยิ่งข้าวเก่าเก็บ ยิ่งขายได้ราคาต่ำ กิโลกรัมละ 1 บาทก็ยังมี และยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่รัฐต้องจ่ายอีก เช่น ค่าเช่าคลังสินค้าเพื่อฝากเก็บข้าวสารในสต๊อก เป็นต้น

สำหรับคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว 1,143 คดีนั้น ล่าสุดคดีอยู่ในชั้นศาลปกครองกลาง 1,136 คดี และศาลปกครองสูงสุด 4 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับผู้ประกอบการโรงสี และเจ้าของโกดังที่ อคส.เช่าฝากเก็บข้าวสาร ทำให้ข้าวเสื่อมสภาพไปจากเดิม หรือข้าวสูญหายไปจากสต๊อก ซึ่ง อคส.ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามคดีโครงการรับจำนำข้าวที่ อคส.ส่งอัยการฟ้องร้องไปแล้วว่าครบถ้วนหรือไม่ หากยังมีคดีตกค้างก็จะเร่งรัดส่งฟ้องโดยเร็ว

ส่วนมันสำปะหลังในสต๊อกรัฐบาลที่ได้จากโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ปี 2551/52, ปี 2554/55 และปี 2556/57 อคส.ได้ทยอยเปิดประมูลอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และเพิ่งระบายเสร็จสิ้นเมื่อเดือน ก.ย. 2564 ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปผลขาดทุน คาดว่าน่าจะขาดทุนหลักหมื่นล้านบาท เพราะที่ผ่านมา อคส.ได้พบการทุจริต และส่งฟ้องร้องดำเนินคดีไปแล้วรวมกว่า 200 คดี โดยอยู่ในชั้นศาลปกครองกลาง 161 คดี มูลค่าความเสียหาย 18,723 ล้านบาท คดีถึงที่สุดแล้ว 14 คดี ศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้ อคส. 4,883 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งรัดให้ชดใช้ความเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงรัฐบาล คสช.ปี 2557 มีข้าวสารในสต๊อกประมาณ 17.76 ล้านตัน ได้เริ่มเปิดประมูลตั้งแต่ปี 2558 หลังจากจัดเกรดข้าวเอ บี และซีเสร็จ และระบายหมดในปี 2561 ส่งเงินคืนกระทรวงการคลัง 1.46 แสนล้านบาท และหยุดความเสียหายจากค่ารักษาคุณภาพข้าว ค่าฝากเก็บอีก 9.36 หมื่นล้านบาท แต่ก็ยังมีข้าวเหลือที่ระบายไม่หมดในความดูแลของ อคส.อีก 2.2 แสนตัน เพราะผู้ซื้อไม่รับมอบ จากการที่ซื้อไปแล้วพบข้าวผิดประเภท หรือไม่ได้ข้าวคุณภาพตามที่กำหนด


กำลังโหลดความคิดเห็น