เชียงใหม่ - ธ.ก.ส.เชียงใหม่ยอมรับพบความผิดปกติการปล่อยสินเชื่อกรณีแม่ค้าสาวโวยแบกภาระหนี้เป็นล้านกู้เงินให้ผู้รับเหมาสร้างบ้านนานกว่าปีสุดท้ายได้แค่บ้านร้างเข้าอยู่ไม่ได้ เบื้องต้นรายงานผลสอบเข้าสำนักงานใหญ่แล้ว ขณะเดียวกันเตรียมช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้ให้ใหม่
จากกรณีที่แม่ค้าสาวในจังหวัดเชียงใหม่ร้องขอความเป็นธรรมกรณีกู้เงินธนาคารสร้างบ้านเดี่ยวชั้นเดียวขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ บนที่ดิน 57 ตารางวา ในซอย 14 หมู่บ้านน้ำบ่อเย็น หมู่ 11 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่กลางปี 2562 แต่ผู้รับเหมาทิ้งงานไปนานกว่าปี จนทุกวันนี้ต้องรับภาระเป็นหนี้ทั้งบ้านก่อสร้างไม่เสร็จและไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ โดยตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีความผิดปกติในกระบวนการอนุมัติสินเชื่อและโอนเงินให้ผู้รับเหมา
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (8 พ.ย. 64) นายประสงค์ สังวาลย์ทอง รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และ นายสนอง ไชยชนะ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยนายสนองเปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นแม่ค้าสาวคนดังกล่าวได้มีการร้องเรียนมายังธนาคารตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. 64 ซึ่งทางธนาคารไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่งเจ้าหน้าที่ลงหน้างานดูสภาพบ้านก็พบว่ายังไม่แล้วเสร็จจริง เมื่อตรวจสอบพบว่าในการอนุมัติสินเชื่อมีวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนและมีการโอนเงินงวดทั้งหมดเข้าบัญชีแม่ค้าสาวอย่างครบถ้วนทุกบาททุกสตางค์
ส่วนกระบวนการถอนจากบัญชี เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีสลิปการถอนด้วยตัวเองที่สาขา แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือปัญหาระหว่างลูกค้ากับผู้รับเหมา อาจจะมีข้อบกพร่องในการปฏิบัติตามสัญญาก่อสร้าง ซึ่งทางธนาคารเข้าใจในความเดือดร้อนของลูกค้าและได้เข้าช่วยเหลือเยียวยาด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่และจะทำหน้าที่ประสานงานผู้รับเหมาให้ดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ซึ่งจากการพูดคุยกันทราบว่าแม่ค้าสาวยืนยันจะไม่ใช้บริการผู้รับเหมารายเดิม โดยเจรจาเรียกเงินจากผู้รับเหมารายเดิมประมาณ 40,000 บาท ซึ่งผู้รับเหมาได้จ่ายให้ครบแล้ว และจะไปหาผู้รับเหมารายอื่นมาสร้างบ้านต่อ
ด้านนายประสงค์ สังวาลย์ทอง รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็นผลิตภัณฑ์เงินกู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัย เป็นโครงการสินเชื่อตามปกติ ธนาคารเป็นห่วงในเรื่องการดำเนินการตามโครงการนี้เนื่องจากลูกค้าต้องส่งเงินระยะยาวพอสมควรและลูกค้าจะต้องมีความสามารถชำระหนี้ได้ ซึ่งธนาคารเข้าไปดูที่สาขาแม่เหียะ พบว่ามีลูกค้ากู้เงินโครงการนี้จำนวนมากเป็นเหตุผิดปกติในภาพรวม จึงได้มีการสอบข้อเท็จจริงขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2563 ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการสอบสวนว่าพนักงานปฏิบัติตามกระบวนการสินเชื่อถูกต้องหรือไม่ ตั้งแต่การใช้หลักฐานในการประกอบการก่อสร้าง ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า จำนวนงวดชำระ
ขณะเดียวกัน นายประสงค์บอกว่า การตรวจสอบพบเหตุผิดปกติจำนวนหนึ่ง แต่ยังเปิดเผยตัวเลขไม่ได้ โดยที่พบทั้งหมดเป็นกรณีที่มีบางส่วนไม่ถูกต้อง เช่น รายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า ซึ่งทางธนาคารมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนอยู่แล้วสำหรับวงเงินกู้ตามเกณฑ์รายได้ ซึ่งในการตรวจสอบความผิดปกติทำให้ต้องระงับการเบิกจ่ายเงินงวดของลูกค้ากลุ่มนี้ไปก่อน เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าลูกค้ารายไหนถูกต้องตามระเบียบ ที่ประชุมคณะกรรมการก็จะเสนอไปที่ฝ่ายเพื่อขอให้เบิกจ่ายเงินตามความก้าวหน้าได้ ในส่วนที่กระบวนการให้สินเชื่อไม่ถูกต้อง ทางธนาคารได้ระงับเงินงวดที่เหลือพร้อมปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้และความสามารถชำระหนี้ที่แท้จริง รวมทั้งจะไปดูด้วยว่าบ้านแต่ละหลังมีการก่อสร้างตามแบบถูกต้องหรือไม่
ทั้งนี้ ทางสำนักงานจังหวัดเจะเข้าไปดูแลและช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มที่ โดยลูกค้าในกลุ่มนี้อาจได้รับผลกระทบ แต่ทางธนาคารจำเป็นต้องปรับโครงสร้างหนี้ใหม่เพื่อประโยชน์ของลูกค้าเอง ส่วนความผิดปกติที่พบในกระบวนการให้สินเชื่อที่พบในสาขาแม่เหียะ ขณะนี้ได้สรุปผลการสอบข้อเท็จจริงและรายงานไปที่สำนักงานใหญ่แล้ว อยู่ที่ธนาคารจะสั่งการมาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนผู้จัดการสาขาที่ถูกระบุว่าเป็นผู้อนุมัติสินเชื่อในช่วงเวลาดังกล่าวได้ย้ายไปสาขาอื่นแล้ว เป็นการย้ายตามวงรอบปกติ
