บุรีรัมย์ - ครูสาวบุรีรัมย์ทนไม่ไหวโพสต์โวยถนนสุดห่วยแตกเป็นหลุมยิ่งกว่าดาวอังคาร เปลี่ยนนายก อบต.หลายสมัยไม่เคยแก้ไข พ่อขับรถตกหลุมชำรุดพวงมาลัยกระแทกหน้าอกจนไตฉีก ต้องหามส่ง รพ.นอนรักษากว่าสัปดาห์ จี้เร่งซ่อมแซมด่วน อย่าปล่อยให้มีคนตายแล้วค่อยซ่อม
วันนี้ (7 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้ Facebook ชื่อ “Wanthida Toemngam” ได้โพสต์รูปภาพชายคนหนึ่งนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล พร้อมข้อความระบายความรู้สึกเกี่ยวกับสภาพถนนว่า "วันนี้มีอะไรจะมาเล่าให้ฟัง คือพ่อฟ้าอะ ขับรถตกหลุมแล้วพวงมาลัยกระแทกหน้าอก ฟังดูเหมือนไม่มีอะไรใช่ปะกะแค่เรื่องขับรถตกหลุม แต่คุณรู้ไหมว่าพ่อฉันเลือดออกในช่องท้อง หมอมาตรวจดูอาการพบว่า “ไตแตก” คือนี่ตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเป็นแรงขนาดนี้ .. และเมื่อต้นปีพ่อก็ขับรถตกหลุมจนหัวฟาดพื้นตอนนั้นหัวแตกก็ได้นอนโรงพยาบาล ที่อยากจะมาเล่าคือ ถนนในหมู่บ้านอะเหี้..มาก เหี้..จริงๆ หลุมยิ่งกว่าดาวอังคาร เปลี่ยนนายก เปลี่ยน อบต.ถนนก็ห่วยแตกเหมือนเดิมว่ะ ต้องไปร้องเรียนที่ใครวะ ชีวิตคนคนหนึ่งอะมึง เข้าใจปะคำว่าไม่โดนกับครอบครัวคุณ คุณไม่เข้าใจหรอก ปีนี้ 2 รอบละพ่อกูอะ ย้ำว่าแค่ขับรถตกหลุม!!!!! #ซ่อมสักทีเถอะถนนอะ ไม่ไหวจริงๆ ว่ะ ขอพูดหน่อย #อบต.โคกสนวน อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ ว่างๆ จะถ่ายถนนให้ได้ดูกันนะคะว่าห่วยแตกขนาดไหน สู้ๆ นะป๋าเดี๋ยวก็ได้กลับบ้านเราแล้ว อดทนเด้อ"
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์ ทราบชื่อคือ น.ส.วรรณธิดา เติมงาม อายุ 27 ปี ปัจจุบันเป็นข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ บอกว่าเป็นคนโพสต์เรื่องราวดังกล่าวจริงเพราะทนไม่ไหวกับสภาพถนนที่ชำรุดเป็นหลุมขนาดใหญ่เกือบตลอดทั้งสาย เปลี่ยนนายก อบต.มาหลายสมัย แต่ก็ไม่มีการแก้ไขปรับปรุง จนล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมาพ่อได้ขับรถไถนาแบบนั่งขับออกไปนา แล้วขากลับได้ขับรถตกหลุมที่ชำรุดซึ่งเป็นหลุมที่ค่อนข้างลึกและกว้าง แล้วพวงมาลัยกระแทกหน้าอกอย่างแรงจนพ่อมีอาการหายใจติดขัด จึงได้พาพ่อไปหาหมอที่ รพ. หมอระบุว่า “ไตฉีก” ต้องนอนรักษาตัวที่ รพ.เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์
จากนั้นคุณครูวรรณธิดายังได้พาผู้สื่อข่าวออกไปดูถนนที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นถนนสายระนามพลวง-โคกสนวน อำเภอชำนิ ซึ่งเป็นถนนลาดยางแต่มีสภาพชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อและมีน้ำขังเกือบตลอดสายระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร บางหลุมลึกและกว้างจนชาวบ้านต้องนำกิ่งไม้มาวางไว้เป็นสัญลักษณ์เตือนผู้ขับขี่
ครูวรรณธิดาเล่าอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกพ่อเคยขี่รถจักรยานยนต์ตกหลุมจนเสียหลักล้มศีรษะฟาดพื้นต้องเข้า รพ.มาแล้ว แต่ครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งที่แล้ว ซึ่งไม่ใช่แค่พ่อของตนเองที่ประสบอุบัติเหตุจากสภาพถนนที่ชำรุด ที่ผ่านมาก็เคยมีชาวบ้านประสบอุบัติเหตุมาหลายรายเหมือนกัน จึงอยากร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาสำรวจซ่อมแซมแก้ไขให้ถนนสายดังกล่าวอยู่ในสภาพที่สามารถสัญจรได้อย่างสะดวก และปลอดภัยมากกว่านี้ก่อนที่จะมีคนประสบอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิต เพราะตนสัญจรไปมาถนนสายนี้มาตั้งแต่เด็ก ทุกวันนี้ก็ยังเห็นถนนอยู่ในสภาพเดิม เปลี่ยนนายก อบต.มาหลายสมัยก็ยังเหมือนเดิม
