กาญจนบุรี - เปิดใจครูสาว ม.ราชภัฏกาญจน์ 1 ใน 8 ครอบครัวที่เดือดร้อนปมถมดินสร้างกำแพงระฟ้ามิดหลังคาบ้าน พร้อมเป็นเพื่อนบ้านที่ดีหากยอมรื้อถอนออก เพราะบ้านคือวิมานของทุกคน หากยังเพิกเฉยจะร้องเรียนไปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จากกรณีสื่อมวลชนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่เจ้าของที่ดินแปลงข้างเคียงถมที่พร้อมสร้างกำแพงสูงมิดหลังคาบ้าน รวม 8 หลัง โดยบ้านทั้ง 8 หลัง สร้างอยู่ฝั่งซ้ายมือภายในซอยร้านอาหารครัวภักดี ท้องที่หมู่ 1 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
สำหรับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทั้ง 8 ครัวเรือนนั้น ประกอบด้วย ครอบครัว ร.ต.สมชาย หนองรั้ง เลขที่ 190/74 ครอบครัว น.ส.มธุรส คุ้มประสิทธิ์ เลขที่ 190/98 ครอบครัวนายจตุรงค์ ภิรมยา เลขที่ 190/101 ครอบครัวนางนภิศรา ทองอุปการ เลขที่ 190/95 ครอบครัวนางอิศรานันท์ เขียวสาคร เลขที่ 190/100 ครอบครัว น.ส.ฉลวย สัมฤทธิสุทธิ์ เลขที่ 190/83 ครอบครัวนายปราโมท รุ่งหิรัญ เลขที่ 190/82 และครอบครัวนายวชิระ ประกอบ เลขที่ 190/97
โดยเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้ ร.ต.พงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดลงพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่อสรุปประเด็นข้อกฎหมายในการนำเข้าที่ประชุมระดับจังหวัดภายในวันนี้ (5 พ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ในวันเดียวกัน น.ส.มธุรส คุ้มประสิทธิ์ อาจารย์สาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี เจ้าของบ้านเลขที่ 190/98 และเป็น 1 ใน 8 ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า ตนพบพิรุธการขออนุญาตถมดินว่าไม่เป็นไปตามวันที่ขออนุญาตให้ถม ถ้าเขาอ้างอิงตามกฎหมาย ตนขออ้างอิงตามกฎหมาย พ.ร.บ.การถมดินเช่นเดียวกัน เมื่อไหร่ที่เจ้าของที่ถมดินก่อนได้รับอนุญาต ตนขอให้เอาดินที่ถมภายในวันนั้นออกไปให้หมด ทั้งหมดนี้เป็นสารจากเพื่อนบ้านทุกหลังคาเรือนที่ได้รับความเดือดร้อน
ดังนั้น ขอพูดอย่างตรงไปตรงมาเลยว่าจุดที่จะจบคือมนุษย์เรามันสะท้อนมาจากสำนวนไทยอย่างหนึ่งคือ บ้านคือวิมานของเรา ทุกอย่างจึงอยากให้บ้านเป็นสิ่งที่มีความสุข วิมานคืออะไรหวังว่าทุกคนคงเข้าใจ วิมานคือสิ่งที่เราอยู่แล้วทำให้เรานั้นสบายใจและมีความสุข
การอยู่ที่สูงมีวิวภูเขาล้อมรอบ 360 องศา มันคือความสุขของเขา มันก็เป็นความสุขของเราเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่า เงินของเราไม่สามารถหาความสุขได้ขนาดนั้น ดังนั้นเงินใครก็เงินมัน สิทธิใครสิทธิมันคุณทำได้คุณก็ทำไป แต่จิตใต้สำนึกเบื้องลึกในหัวใจมันต้องคำนึงถึงคนอื่นด้วย เพราะวิมานใครๆ ก็รัก คุณทำแบบนี้คือการทำลายวิมานของคนอื่นเขา
ตนขออนุญาตนำคำพูดของเจ้าของบ้านที่อยู่ฝั่งขวาที่ไม่ติดกับกำแพงที่ได้พูดคุยกัน เขาบอกว่าบ้านเรามีพื้นดิน เขาขุดล้อมเอาพื้นดินไป จะถมสูงหรือต่ำแค่ไหนมันก็คือพื้นดินของเรา ต่อให้เราถมสูงอยู่ตรงกลาง บ้านของเราก็อยู่ตรงกลาง โดยเว้นระยะ 3-4 เมตร เพื่อทำเป็นสวนหย่อม ชวนเพื่อนบ้านมากินข้าว คุยกันมองเห็นหน้ากันพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมันจะมีความสุข เพราะพื้นดินไม่ได้หายไปไหนมันยังเป็นของเรา เขามาเอาดินเราไปไหนไม่ได้ แต่ไม่ใช่มาถมดินมิดหลังคาบ้านของคนอื่นเช่นนี้
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือความคิดของคนที่คิดว่าเขามีเงินและมีสิทธิที่จะคิดเหมือนกัน แต่เพื่อนบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนนั้นเขาไม่คิดที่จะทำ เพราะเขาคำนึงถึงเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกัน ดังนั้น ทุกอย่างมันจึงขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกของแต่ละคนที่จะทำหรือไม่ทำมันถึงจะอยู่กันได้เท่านั้นเอง
ที่สำคัญคือเราไม่ได้โวยวาย แต่ที่เราออกมาโวยวายเพราะว่าพวกเราที่ได้รับความเดือดร้อน เกิดความไม่สบายใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งบ้านที่เราซื้อมาบางหลังราคา 3.5 ล้าน บางหลังราคา 3 ล้าน ประกาศขายทิ้งเพื่อไปอยู่ที่อื่นก็ขายไม่ได้เพราะไม่มีใครกล้ามาซื้อ จึงถือว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมันทำให้พวกเราเสียทรัพย์ และยังมีหนี้ที่ต้องผ่อนค่าบ้านกับธนาคารอยู่อีกหลายล้านบาท
ถามว่าถ้าหากกำแพงนี้ยังคงอยู่ โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่มั่นใจในความมั่นคงแข็งแรงแล้วพวกเราจะขายบ้านได้หรือไม่ เชื่อว่าคงขายไม่ได้ และเราจะหนีได้ไหมก็ไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากยังไม่ปิดหนี้ที่ต้องผ่อนค่าบ้านกับธนาคารในแต่ละเดือน
ในทางกลับกันเจ้าของที่ข้างเคียงเขามีทั้งรถมีทั้งเงินมีทั้งดิน ถ้าเขาขุดดินที่นำมาถมเอากลับไปไว้ที่เดิมคือที่ฟาร์ม ฟาร์มของเขาก็งอกเงยด้วยดินเดิม หรือเอาดินไปขายเขาก็ได้เงิน ซึ่งเขาไม่ได้เสียประโยชน์เท่ากับบ้านหลังละ 3 ล้านบาทเหมือนพวกเรา เพราะฉะนั้นความเดือดร้อนถ้าให้ตีค่าเป็นจำนวนเงินนั้นให้ตีราคาของบ้านทุกหลังพร้อมกับสิทธิข้าราชการของทุกคนที่จะต้องสูญเสียไปกับบ้านหลังแรกของเรา
สุดท้ายสิทธิที่เราเรียกร้องไปเป็นข้อเรียกร้องเดิมคือ หนึ่งให้ตรวจสอบโครงสร้างกำแพง ตรวจสอบใบอนุญาตการถมที่ ตรวจสอบวิศวกร ตรวจสอบการทำงานเมื่อถูกต้องทั้งหมดแล้วคุณจะต้องเข้ามาดูทัศนียภาพของบ้านเรา และจะต้องรับรองได้ว่าทุกอย่างยังคงแข็งแรง และเมื่อบ้านของพวกเราไม่ได้รับความเสียหายหรือเกิดภาวะการขายไม่ได้ก็ไม่เป็นอะไร แต่คุณต้องมารับรองว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ถามว่าชาวบ้านทุกคนอยากให้เจ้าของที่ทุบกำแพงออกไปหรือไม่นั้น ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าขอให้เอามันออกไป เมื่อเจ้าของที่เอากำแพงออกไปพร้อมกับปรับดินที่ถมสูงเท่ากับหลังคาบ้านออกไป เราพร้อมที่จะเป็นเพื่อนบ้านที่ดี จะคอยดูแลซึ่งกันและกันทุกคนจะมีความสุข เทศบาลตำบลลาดหญ้า จะมีความสุข รวมทั้งจังหวัดจะมีความสุข แต่ถ้ายังมีปัญหาเรื้อรังอยู่เช่นนี้ หนังสือร้องเรียนที่ส่งถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบจะส่งเรื้อรังไปเรื่อยๆ