xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องใหญ่! สำนักพุทธฯ ฟ้องศาลเลยขอคืนที่ดิน 106 ไร่ “พระธาตุศรีสองรัก” ชาวด่านซ้ายยันไม่ใช่วัดสร้างมานานกว่า 400 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลย - สำนักพุทธฯ ฟ้องศาลเลยขอคืนที่ดิน 106 ไร่ “พระธาตุศรีสองรัก” ไปดูแลจัดการ อ้างเคยเป็นวัดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2103 ด้านเจ้าพ่อกวน-เจ้าแม่นางเทียม และกรรมการมูลนิธิพระธาตุศรีสองรักเผยคดีฟ้องยึดพระธาตุกระทบจิตใจชาวด่านซ้าย เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจมาหลายชั่วอายุคนนานกว่า 400 ปี เป็นเจดีย์สัญลักษณ์สัมพันธไมตรีระหว่างผู้ครองนครสองอาณาจักร “กรุงศรีอยุธยา กับกรุงศรีสัตนาคนหุต”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 พ.ย.) ที่ศาลจังหวัดเลย นายถาวร เชื้อบุญมี เจ้าพ่อกวน และนางประกายมาศ เชื้อบุญมี เจ้าแม่นางเทียม ผู้นำทางจิตวิญญาณของอำเภอด่านซ้าย และคณะ พร้อมด้วยนายอุดร แสวงผล กรรมการมูลนิธิพระธาตุศรีสองรัก ในฐานะประธานกองทุนปกป้องพระธาตุศรีสองรัก เดินทางมาเป็นพยานให้แก่เทศบาลตำบลด่านซ้าย ในฐานะผู้ร้องสอด คดีหมายเลขดำที่ 102/2564 ที่นายกิตติพันธ์ ปฐมชัยเกียรติ ไวยาวัจกร ผู้รับมอบอำนาจจากวัดพระธาตุศรีสองรัก เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ฟ้องร้องกรมที่ดินเป็นจำเลยที่ 1 อธิบดีกรมที่ดินเป็นจำเลยที่ 2 และสำนักงานที่ดินจังหวัดเลย สาขาอำเภอด่านซ้าย เป็นจำเลยที่ 3 ขอให้เพิกถอนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) เนื้อที่ 106 ไร่ 3 งาน 91 ตารางวา ที่ออกให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ร่วมกัน โดยอยู่ในความดูแลของกระทรวงมหาดไทย ออกทับที่ดินของวัดพระธาตุศรีสองรัก

ในคำฟ้องระบุว่า ตามหนังสือรับรองสถานภาพวัดของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติบันทึกไว้ว่าบริเวณพระธาตุศรีสองรักมีฐานะเป็นวัดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2103 ชาวบ้านเรียกว่า “วัดธาตุ” และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2109 มีพระอุโบสถ มีศาลาการเปรียญ มีหอระฆัง และพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ 5 รูป เป็นวัดที่ได้รับการจัดตั้งถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ โดยมีเนื้อที่ทั้งหมด 108 ไร่ 3 งาน 11 ตารางวา

จำเลยทั้งสามทราบอยู่แล้วว่าที่ดินบริเวณนี้เป็นวัด แต่ยังเพิกเฉย ไม่เพิกถอนหนังสือ นสล.ออก ทำให้โจทก์ไม่สามารถเข้าไปบำรุง ดูแลรักษา ปฏิสังขรณ์เสนาสนะให้มั่นคงและอยู่ในสภาพพร้อมให้พระสงฆ์จำพรรษาได้




ด้านนายอุดร แสงผล กรรมการมูลนิธิพระธาตุศรีสองรัก เปิดเผยว่า จากหลักฐานต่างๆ ทั้งพยานบุคคล เอกสาร และการปฏิบัติพิธีกรรมประเพณีวัฒนธรรมของอำเภอด่านซ้ายสืบมากว่า 430 ปี ไม่มีสิ่งใดที่บ่งบอกเลยว่าพระธาตุศรีสองรักเป็นวัดมาก่อน ทางเทศบาลตำบลด่านซ้ายจึงเข้าร้องสอด เป็นจำเลยร่วม เจ้าพ่อกวน เจ้าแม่นางเทียม และคณะก็ได้เดินทางมาเป็นพยานร่วมด้วย ซึ่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 43 ที่ระบุว่า ชุมชนมีสิทธิในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น และของชาติ

พระธาตุศรีสองรักที่สร้างขึ้นมานั้นมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นเขตแดนระหว่างกรุงศรีอยุธยากับกรุงศรีสัตนาคนหุต อยู่กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านกับแม่น้ำโขง เป็นเจดีย์สัญลักษณ์ความสัมพันธไมตรีระหว่างทั้งสองอาณาจักรว่า จะไม่รบราฆ่าฟันกัน จะมีแต่ความรักใคร่กลมเกลียว ไม่มีสิ่งใดที่บ่งบอกว่าเป็นวัด มีการดูแลรักษา มีประเพณีวัฒนธรรม พิธีกรรมตามความเชื่อ โดยมีเจ้าพ่อกวน เจ้าแม่นางเทียม คณะพ่อแสน นางแต่ง คอยดูแลสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน แต่จะไม่ขอก้าวล่วงการพิจารณาของศาล ฝ่ายตนมีหลักฐานเพียงพออยู่แล้ว


นายถาวร เชื้อบุญมี เจ้าพ่อกวน กล่าวว่า หากที่ดินบริเวณนี้เปลี่ยนแปลงสถานะเป็นวัดแล้ว จะส่งผลให้ประเพณี วัฒนธรรม พิธีกรรมความเชื่อที่มีมาช้านานก็จะเปลี่ยนแปลงไปตาม ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้แล้ว ตนจึงต้องมายืนยันความจริงว่าพื้นที่ตรงนี้ไม่ใช่วัด

ขณะที่นางประกายมาศ เชื้อบุญมี เจ้าแม่นางเทียม กล่าวว่า พื้นที่บริเวณพระธาตุศรีสองรัก เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมมาตั้งแต่โบราณกาล มีการแก้บะแก้บน โดยการฆ่าควายทุกปีและยิ่งใหญ่ที่สุด หากเป็นวัดตามที่กล่าวอ้างจะสามารถฆ่าสัตว์ได้หรือ หลังจากที่ทราบเกี่ยวกับคดีความนี้ ชาวอำเภอด่านซ้ายรู้สึกไม่สบายใจ เป็นกังวลอยู่มาก เพราะทุกคนรู้ดีว่าพระธาตุศรีสองรักเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจมาหลายชั่วอายุคน เจ้าแม่นางเทียมกล่าว


ทั้งนี้ พระธาตุศรีสองรัก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน อ.ด่านซ้าย จ.เลย สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เมื่อปี พ.ศ. 2103 เสร็จในปี พ.ศ. 2106 เพื่อให้เป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา (สมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ) กับกรุงศรีสัตนาคนหุต (ปัจจุบันคือเวียงจันทน์ ประเทศลาว)

โดยกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงครองราชสมบัติ ตรงกับสมัยที่พม่าเรืองอำนาจ และมีการรุกรานดินแดนต่างๆ เพื่อขยายอำนาจ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงตกลงรวมกำลังเพื่อต่อสู้กับพม่า จึงทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน และเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำไมตรีต่อกัน จึงได้ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรักเพื่อเป็นสักขีพยาน ณ กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านกับแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นรอยต่อของทั้งสองราชอาณาจักร

นอกจากนี้ ภายในพระธาตุยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรก ศิลปะล้านช้างทรงเครื่องอยุธยา หัวนาคปรกสร้างด้วยศิลา องค์พระพุทธรูปสร้างด้วยทองสำริด มีหน้าตักกว้าง 21 นิ้ว สูง 30 นิ้ว ทุกวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ชาวอำเภอด่านซ้าย หรือ “ลูกผึ้งลูกเทียน” จะร่วมกันจัดงานสมโภชพระธาตุขึ้น โดยจะนำต้นผึ้ง มาถวายพระธาตุ และทำ “พิธีล้างธาตุ” ถือเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นประจำทุกปี


กำลังโหลดความคิดเห็น