xs
xsm
sm
md
lg

ศาลปกครองเชียงใหม่สั่งยก-จำหน่ายคดี อจ./นศ.อ้างถูกขวางใช้หอศิลป์ ฟ้องคณบดียันอธิการบดี มช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพจากแฟ้ม - 16 ต.ค. 64 นักศึกษาและอาจารย์ ได้ใช้คีมตัดโซ่คล้องประตูหน้าหอศิลป์ฯ เพื่อเข้าไปเตรียมการจัดแสดงงานศิลปะในวันที่ 18 ต.ค.
เชียงใหม่ - ศาลปกครองเชียงใหม่อ่านคำพิพากษาสั่งยกฟ้อง-จำหน่ายคดีออกจากสารบบ..กรณีอาจารย์นำ นศ.วิจิตรศิลป์ มช.อ้างถูกขวางใช้หอศิลป์แสดงผลงานธีสิสจบการศึกษา ยื่นฟ้องคณบดี-อธิการบดี

วันนี้ (4 พ.ย. ) ตุลาการศาลปกครองเชียงใหม่ได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 382/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 288/2564 กรณีนักศึกษาสาขาวิชา Media Art and Design คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ประมาณ 15 คน พร้อมด้วย นายทัศนัย เศรษฐเสรี และนายปฐมพงศ์ มานะกิจสมบูรณ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชา Media Art and Design ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา

เพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว ต่อคำสั่งของคณะวิจิตรศิลป์และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ปฏิเสธการใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมในการแสดงผลงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการเมืองของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ในสาขาวิชา Media Art and Design ซึ่งจะต้องจัดแสดงนิทรรศการในธีสิสจบการศึกษา

โดยขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งดังนี้ 1. ขอให้ศาลเพิกถอนและยกเลิกขั้นตอนการพิจารณารายละเอียดและเนื้อหาของผลงานของนักศึกษาที่จะจัดแสดง ซึ่งถูกเรียกตรวจสอบโดย ผอ.หอศิลป์ฯ, คณบดีคณะวิจิตรศิลป์ โดยกล่าวอ้างว่าเป็นนักศึกษาที่มีคณาจารย์ดูแลและตรวจทานความก้าวหน้าของการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นการละเมิดเสรีภาพทางวิชาการตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 34 วรรค 2 ได้บัญญัติคุ้มครองไว้คำขอคุ้มครองชั่วคราว
2. ขอให้ศาลมีคำสั่งให้คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ผู้ฟ้องคดีได้ใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ผู้ฟ้องคดีได้ใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรม เพื่อจัดแสดงนิทรรศการในครั้งนี้ และเพื่อสำเร็จการศึกษา และขอให้มีการขยายเวลาจากกำหนดเดิม วันที่ 16-22 ต.ค. 64 เป็นวันที่ 16-24 ต.ค. 64 เนื่องจากขั้นตอนกระบวนการได้ล่วงเลยตามกำหดนการเดิมมาแล้ว

และ 3. ขอให้ศาลทำการไต่สวนเป็นกรณีฉุกเฉินและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพื่อให้ผู้ฟ้องคดีดำเนินกิจกรรมการแสดงนิทรรศการและการส่งผลงานเพื่อการประเมินผลได้ตามเป้าหมาย และทันเวลา และขอบรรเทาทุกข์ชั่วคราวให้ใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อจัดแสดงนิทรรศการและการตรวจประเมินผลการศึกษา

อย่างไรก็ดี เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าระหว่างการพิจารณาคดีของศาล คู่กรณีทั้งสองฝ่ายและพยานซึ่งเป็นอาจารย์สอนรายวิชา 112401 ให้ถ้อยคำรับกันว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสี่ได้เข้าไปจัดนิทรรศการแสดงผลงานฯ ที่หอศิลปวัฒนธรรมฯ แล้ว และอาจารย์ผู้สอนรายวิชาดังกล่าวได้ตรวจผลงานของผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสี่ ซึ่งได้มีการแสดงนิทรรศการเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม และได้มีการให้คะแนนในส่วนของการแสดงนิทรรศการแล้ว

ประกอบกับผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (คณบดีคณะวิจิตรศิลป์) ได้แถลงต่อศาลว่า ในส่วนของผลการศึกษา รายวิชา 112401 ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ของผู้ฟ้องคดีได้ผ่านการรับรองผลการประเมินจากคณะกรรมการวิชาการของคณะวิจิตรศิลป์แล้ว หลังจากนี้คณะกรรมการบริหารของคณะจะพิจารณาและแจ้งผลให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ต่อไป

จึงเป็นกรณีที่ศาลไม่จำต้องกำหนดคำบังคับให้ผู้ถูกฟ้อง พิจารณาเรื่องการขอใช้หอศิลปวัฒนธรรมฯ อีกต่อไป เนื่องจากไม่มีผลเป็นการเยียวยาผู้ฟ้อง ที่ได้ผ่านการรับรองผลการประเมินจากคณะกรรมการวิชาการของคณะวิจิตรศิลป์แล้ว

ส่วนที่ผู้ฟ้องคดีมีคำขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนขั้นตอนการพิจารณารายละเอียดและเนื้อหาของผลงานของผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสี่ที่จะจัดแสดง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การพิจารณารายละเอียดและเนื้อหาของผลงานดังกล่าวเป็นขั้นตอนการดำเนินการพิจารณาก่อนที่ผู้ถูกฟ้องคดีจะมีคำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ผู้ฟ้องคดีใช้หอศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเป็นเพียงกระบวนการภายในของฝ่ายปกครองที่ยังไม่มีผลกระทบสิทธิของผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสี่หรือเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสี่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายที่จะมีสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลได้

สำหรับคำฟ้องในส่วนของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 (อธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ) พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ได้มอบหมายให้คณะวิจิตรศิลป์เป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบการดำเนินงานของหอศิลปวัฒนธรรมฯ แล้ว ตามประกาศมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2541 ผู้ฟ้องคดีจึงมิได้เป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายอันเนื่องจากการกระทำหรืองดเว้นการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 จึงมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
กำลังโหลดความคิดเห็น