ท่าขี้เหล็ก - เผยภาพปฏิบัติการไอ้เสือเอาวา..หลังท่าขี้เหล็กเจอโควิดระบาดหนักมานาน พอสถานการณ์เริ่มเบาบาง ลดเวลาเคอร์ฟิว คนเริ่มออกมาค้าขาย โจรแสบก่อเหตุอุกอาจยกพวกบุกปล้นร้านแลกเงิน-บ้านเรือน สัปดาห์เดียว 2 ครั้ง ไม่นับจี้ชิงทรัพย์ ฆาตกรรม
รายงานข่าวจากชายแดนไทย-เมียนมาด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งว่า ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ดูเหมือนจะเบาบางลง ทำให้ทางการท่าขี้เหล็กได้ปรับเวลาเคอร์ฟิว จากเดิมในช่วงที่โควิด-19 ระบาดอย่างหนักได้ห้ามออกนอกบ้านเรือนตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. และล่าสุดได้ปรับเวลาเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ทำให้ชาวท่าขี้เหล็กตลอดจนชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนเริ่มเดินทางมาติดต่อทำธุรกรรมค้าขายกันมากขึ้น
ขณะที่สถานบันเทิงต่างๆ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร คาราโอเกะ ฯลฯ กลับมาเปิดบริการกันอย่างคึกคักเหมือนเดิม ซึ่งมีผู้ออกมาท่องเที่ยวกันตามปกติแต่อยู่ภายในกรอบเวลาของเคอร์ฟิวดังกล่าว นอกจากนี้โครงการก่อสร้างสถาบันเทิงทางฝั่งตะวันออกของตัวเมืองท่าขี้เหล็กยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนงานที่เป็นชาวเมียนมา ไทใหญ่ หรือคนไทยที่ตกค้างได้หันไปทำงานเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าขณะนี้ได้เกิดเหตุอาชญากรรมขึ้นในท่าขี้เหล็กบ่อยครั้งผิดปกติ โดยแหล่งข่าวในท่าขี้เหล็กระบุว่าเฉพาะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดเหตุคนร้ายบุกปล้นทรัพย์ภายในบ้านเรือนและร้านค้าในเมืองท่าขี้เหล็ก ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ถึง 2 ครั้ง และมีคดีฆ่าผู้อื่นเสียชีวิตอีก 1 ราย โดยกรณีเหตุปล้นทรัพย์เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งภายในตลาดท่าล้อ ใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนถาวรที่ยังปิดห้ามเข้าออกระหว่างประเทศอยู่ โดยคนร้ายได้เงินไปจำนวนประมาณ 3 ล้านจั๊ต เงินหยวนอีก 10,000 หยวน และเงินบาทไทยอีกประมาณ 100,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
เหตุการณ์ดังกล่าวกล้องวงจรปิดสามารถเก็บภาพเหตุการณ์ทั้งด้านนอกและภายในร้านได้ พบมีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนใช้รถยนต์แวนสีขาวเป็นพาหนะ ขับพุ่งเข้าไปจอดเทียบหน้าร้านที่มีคนอยู่ จากนั้นพากันบุกเข้าไปใช้อาวุธ คาดว่าน่าจะเป็นมีดปลายแหลมข่มขู่ และล็อกคอคนในบ้านเอาไว้ 1 คน จนทำให้คนในบ้านตกใจและพยายามเข้าไปยกมือไหว้ขอร้อง ก่อนที่คนร้ายจะได้ทรัพย์สินและหลบหนีออกไปอย่างอุกอาจ
ในบริเวณเดียวกัน เคยเกิดเหตุคนร้ายเป็นกลุ่มพากันบุกเข้าปล้นร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในลักษณะเดียวกับเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และยังเกิดเหตุปล้นจี้ชิงทรัพย์ในพื้นที่เมืองพง ซึ่งอยู่ชานเมืองท่าขี้เหล็กออกไปอีกด้วย
