เชียงราย - สาวแม่สายแห่ขึ้นโรงพักแจ้งจับเพื่อนเก่าร่วมชั้นมัธยมชวนลงทุนค้าชายแดน-ส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าไปเมียนมาแลกกำไรงามร้อยละ 7 สุดท้ายติดต่อไม่ได้ เสียหายกันหลักแสนถึงหลักล้าน ตร.เร่งรวบรวมข้อมูลติดตามหาตัวแล้ว
วันนี้ (21 ต.ค. 64) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ต้องเร่งติดตามสืบสวนสอบสวนกรณีมีกลุ่มหญิงสาวจำนวนหนึ่งเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ชนาวิญ สินธุยะ พนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย วานนี้ (20 ต.ค.) ว่าถูกหลอกให้ร่วมลงทุนค้าชายแดน-ส่งออกสินค้าทำให้ได้รับความเสียหายกันเป็นจำนวนมาก
ผู้เสียหายระบุว่า เมื่อ 24 ส.ค. 64 ที่ผ่านมาได้รับการชักชวนจาก น.ส.ณฐมน อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา ให้ร่วมลงทุนค้าขายชายแดนผ่าน อ.แม่สาย-จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา อ้างว่ากำลังระดมทุนเพื่อส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าไปยังประเทศเมียนมา และจะแบ่งปันผลกำไรให้ร้อยละ 7 ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกันด้วยจึงได้โอนเงินไปให้ น.ส.ณฐมนคนละหลายครั้ง
โดยมีอยู่รายหนึ่งโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย 4 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 ก.ย. จำนวน 100,000 บาท วันเดียวกันโอนครั้งที่ 2 อีก 100,000 บาท ครั้งที่ 3 โอนวันที่ 24 ก.ย. จำนวน 220,000 บาท และครั้งที่ 4 โอนวันที่ 4 ต.ค. จำนวน 290,000 บาท และโอนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทยอีก 2 ครั้ง คือวันที่ 26 ก.ย. จำนวน 300,000 บาท วันที่ 28 ก.ย. จำนวน 160,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมดจำนวน 1,080,000 บาท
ต่อมาทราบว่า น.ส.ณฐมนไม่ได้นำเงินของพวกตนไปลงทุนทำการค้าจริง และเห็นนำเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่น จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปเพื่อขอเงินคืน ซึ่ง น.ส.ณฐมนเคยตกลงจะคืนให้และให้ไปรับเช็คธนาคารกสิกรไทย สาขาแม่สาย 2 โดยให้ก่อนเบื้องต้น 345,000 บาท ส่วนที่เหลือจะทยอยจ่ายให้ในวันที่ 25 และ 30 ต.ค. แต่เมื่อนำเช็คไปเรียกเก็บเงินที่ธนาคารปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายหรือเช็คเด้ง ทำให้พากันมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ชนาวิญ ดังกล่าว
น.ส.อลิสสา หนึ่งในผู้แจ้งความร้องทุกข์ กล่าวว่า ตนร่วมลงทุนไป 100,000 บาท เพราะ น.ส.ณฐมน รับปากว่าจะให้ผลตอบแทนร้อยละ 7 ต่อการค้าที่ได้กำไร 1 ครั้ง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 วันต่อครั้ง แต่หลังจากลงทุนไปแล้ว น.ส.ณฐมนก็หายหน้าไปและติดต่อไม่ได้ ทำให้เชื่อว่าอาจหลอกลวงคนอื่นอีก ซึ่งเมื่อสอบถามเพื่อนฝูงก็ทราบว่ามีเพื่อนถูกชักชวนและโอนเงินให้เหมือนกันอย่างน้อย 9 คน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำแต่ละคนและเก็บรวบรวมข้อมูลการติดต่อ เอกสารการโอนเงิน เช็คบัญชีธนาคาร ฯลฯ เพื่อรวบรวมเป็นหลักฐาน ก่อนเร่งสืบสวนหาตัวผู้ถูกกล่าวหาเพื่อสอบปากคำและพิจารณาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป