เชียงราย - กลุ่มรถบิ๊กไบค์ฯ เชียงราย รวมตัวร้องทุกข์ตำรวจ ถูกมิจฉาชีพเปิดเพจหลอกขาย BMW S 1000 RR ราคาเกือบครึ่งล้าน แต่พอโอนเงินแล้วติดต่อไม่ได้ พบมีคนตกเป็นเหยื่อเพียบ เสียหายกันไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน
วันนี้ (15 ต.ค. 64) นายสิทธิพร ก้างออน อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 7 หมู่ 7 ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย พร้อมสมาชิกกลุ่มบิ๊กไบค์ วูล์ฟ ไรเดอร์ เชียงราย ร่วมกันนำรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ประมาณ 20-30 คันเข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.อ.ประจญ ปัญญาแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย รับเรื่อง
นายสิทธิพรระบุว่า เพิ่งเปิดร้านซื้อขายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์บริเวณสี่แยกศรีทรายมูล อ.เมืองเชียงราย ได้ประมาณ 2 เดือน ต่อมาเห็นคนเปิดเพจและยูทูบรับซื้อขายบิ๊กไบค์จึงได้มีการติดต่อกัน กระทั่งวันเสาร์ที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมาตกลงซื้อขายรถยี่ห้อ BMW S 1000 RR ที่ได้โพสต์ขายผ่านทางโซเชียลมีเดียในราคา 455,000 บาท
หลังจากได้ดูสินค้าผ่านทางวิดีโอคอลและสื่อต่างๆ แล้ว ก็ได้นัดโอนเงินกันในวันอาทิตย์ที่ 10 ต.ค. แต่เมื่อตนโอนเงินไปแล้วปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อกับชายคนดังกล่าวได้อีกเลย และยังบล็อกการติดต่อด้วย ทำให้ไม่สามารถสอบถามสินค้าหรือทวงเงินคืนได้
เบื้องต้นได้ไปแจ้งความไว้ต่อ พ.ต.ท.ชลธิชา ธรรมสอน สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย แต่เมื่อสอบถามคนวงการเดียวกันก็พบว่าทั้งในกลุ่มของตนและบิ๊กไบค์กลุ่มอื่นๆ ก็ถูกบุคคลดังกล่าวหลอกในลักษณะเดียวกัน คิดเป็นมูลค่ารวมกันทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาท ตนจึงเห็นว่านอกจากตนจะเสียหายแล้วอาจทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนตามมาจึงได้พากันมาร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและ ภ.จว.เชียงราย
ทั้งนี้ กลุ่มบิ๊กไบค์ วูล์ฟ ไรเดอร์ เชียงราย ยังได้นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายรถ-การติดต่อกับเจ้าของรถจริง ซึ่งได้รับความร่วมมือในการส่งรายละเอียดรถให้เป็นอย่างดี โดยระบุว่าไม่ได้รู้เห็นกับบุคคลที่นำมาโพสต์ขายเลย รวมทั้งมีหลักฐานเป็นบัญชีการโอนเงิน การติดต่อทางไลน์และอื่นๆ เบื้องต้นทราบว่ารถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์คันดังกล่าวอยู่ที่ จ.ตาก ส่วนผู้ที่เสนอขายอยู่ที่ จ.ราชบุรี ซึ่งทาง พ.ต.อ.ประจญ และ พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ รับจะนำไปดำเนินการตามกฎหมาย
พ.ต.อ.ประจญกล่าวว่า กรณีนี้เกิดจากการซื้อขายกันผ่านทางออนไลน์โดยไม่มีหน้าร้าน เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนตามเส้นทางการโอนเงิน ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนแล้วจึงจะขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อไป อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีคดีลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก และล้วนเป็นการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ จึงขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังและตรวจสอบความน่าเชื่อถือของสื่อออนไลน์หรือเพจที่ซื้อขายให้ดี อย่าได้หลงเชื่อโอนเงินให้ก่อน เพราะบางครั้งมิจฉาชีพอาจจะใช้บัญชีบุคคลอื่นทำให้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ บางกรณีพบมีการหลอกซื้อขายกันได้ 1-2 ครั้ง กระทั่งเมื่อซื้อขายกันจำนวนมากๆ และมีการโอนเงินไปแล้วผู้ขายก็ตัดการติดต่อไปเลยก็มี แต่ทางตำรวจก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้ต่อไป