สระแก้ว - ภัยสังคม! ชาวบ้าน ต.โคกปี่ฆ้อง จ.สระแก้ว รวมตัวแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว และ สภ.ปางสีดา ถูกเมียรองนายก อบต.แห่งหนึ่งหลอกนำบัตรประชาชนไปกู้เงินผ่านแอปธนาคารจนทำให้เป็นหนี้ตั้งแต่หลักพันยันหลักแสน
จากกรณีที่กลุ่มชาวบ้านใน ต.โคกปี่ฆ้อง จ.สระแก้ว จำนวนหลายสิบรายได้รวมตัวเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว ให้ดำเนินคดีภรรยารองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองสระแก้ว หลังหลอกชาวบ้านว่าสามารถใช้บัตรประจำตัวประชาชนเพียงใบเดียวกู้เงินหลักแสนผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารแห่งหนึ่งได้อย่างง่ายดาย
จนทำให้มีชาวบ้านหลงเชื่อนำบัตรประจำตัวประชาชนมอบให้ภรรยารองนายก อบต.รายดังกล่าวเพื่อนำไปตรวจสอบเครดิตบูโร ซึ่งสุดท้ายนอกจากจะไม่ได้เงินกู้แล้วยังต้องกลายเป็นหนี้ และถูกแจ้งจากธนาคารให้ชำระเงินงวดที่กู้เงินตั้งแต่จำนวน 7,000 บาท เรื่อยไปจนถึง 200,000-370,000 บาท
ขณะที่ชาวบ้านบางรายถูกหลอกให้เข้าร่วมโครงการกู้เงินผ่านธนาคารโดยมีภรรยารองนายก อบต.ดังกล่าวเป็นธุระดำเนินการให้จนได้รับเงินสด จำนวน 85,000 บาท โดยไม่มีการโอนผ่านบัญชีธนาคาร และเมื่อเกิดความสงสัยจึงเดินทางไปขอตรวจสอบหนี้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารกลับพบว่าตนเองเป็นหนี้มากถึง 330,000 บาท
และยังคงมีกลุ่มชาวบ้านทยอยเดินทางขึ้นโรงพักเพื่อแจ้งความเอาผิดกับภรรยารองนายก อบต.รายนี้อย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใน ต.โคกปี่ฆ้อง อีกเกือบ 20 รายยังได้เดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว หลังถูกหลอกลวงจากภรรยารอง นายก อบต.รายดังกล่าวเช่นกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดสระแก้ว เข้ารับฟังข้อร้องเรียนจากประชาชน พร้อมรับปากว่าจะประสานเจ้าหน้าที่ดีเอสไอให้เข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
นางชมพู คงเมือง ผู้ใหญ่บ้านเจ็ดหลัง ม.13 ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมืองสระแก้ว บอกว่า ได้พาลูกบ้านจำนวน 17 คนเข้าแจ้งความเพิ่มเติมต่อ ร.ต.อ.ชูศักดิ์ กลางประพันธ์ ร้อยเวร สภ.ปางสีดา เพื่อขอให้ดำเนินคดีฐานหลอกลวงฉ้อโกงกับภรรยารองนายก อบต.แห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองสระแก้ว หลังร่วมกับพวกเก็บบัตรประจำตัวประชาชนของชาวบ้านเพื่อนำไปกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันธนาคารแห่งหนึ่ง
จนทำให้ชาวบ้านถูกใบแจ้งหนี้จากธนาคารรายละหลายแสนบาท โดยที่ชาวบ้านบางรายไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว
"ขณะที่ชาวบ้านบางรายแม้จะได้รับเงินสดจากภรรยารองนายก อบต.รายนี้แต่ไม่เต็มจำนวนที่ขอกู้ โดยทราบว่าหลังจากที่สื่อมวลชนแขนงต่างๆ ได้เริ่มนำเสนอข่าว ภรรยารองนายก อบต.พร้อมพวกได้พยายามเข้าไปไกล่เกลี่ยกับชาวบ้านเพื่อต่อรองขอจ่ายเงินคืนให้ครึ่งหนึ่งของยอดเงินกู้แต่ชาวบ้านต้องยอมรับสภาพหนี้เต็มจำนวนถึง 500,000 บาท ซึ่งชาวบ้านต่างพากันยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด" ผู้ใหญ่บ้านเจ็ดหลัง กล่าว
ขณะที่ พ.ต.ท.ธำรงค์ ชูหมุน รองผู้กำกับฝ่ายปราบปราม สภ.ปางสีดา เผยว่า ที่ผ่านมาร้อยเวรได้ทำการเรียกชาวบ้านที่ถูกหลอกลวงเข้าสอบสวนข้อมูลในเบื้องต้นแล้ว และจากนี้จะเรียกบางคนมาสอบสวนเพิ่มเติม
“เรื่องนี้กำลังได้รับความสนใจจากสังคมเป็นวงกว้าง และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาให้คำปรึกษาด้านกฎหมายกับชาวบ้านแล้ว ส่วนพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว และ สภ.ปางสีดา ซึ่งเป็นท้องที่ที่ได้รับแจ้งความและท้องที่เกิดเหตุจะเร่งดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จอย่างเร็วที่สุด” รองผู้กำกับฝ่ายปราบปราม สภ.ปางสีดา กล่าว