ปราจีนบุรี - สลด! ลูกช้างป่าเขาอ่างฤาไน ถูกรถพุ่งชนตายบนถนนสาย 359 เขาหินซ้อน-สระแก้ว คาดแยกโขลงออกหากินตามลำพัง ขณะที่ ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี เตรียมจัดงบติดตั้งไฟส่องสว่างลดการสูญเสีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวานนี้ (18 ต.ค.) ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนลูกชนช้างจนตายบนถนนสาย 359 เขาหินซ้อน-สระแก้ว บ้านอ่างตะแบก ม.8 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ผวจ.ปราจีนบุรี พ.ต.อ.พงศ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ และนายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปราจีนบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
พบลูกช้างป่าเพศผู้อายุประมาณ 1-2 ปี นอนตายริมถนน สภาพไส้ทะลักออกมากองกับพื้น และจากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 2 กค 4946 กทม.สภาพด้านหน้าพังยับ ส่วนคนขับซึ่งเป็นผู้หญิงและได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้า
นอกจากนั้น ยังพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กม 1459 ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีนายกฤษกร แน่นอน เป็นคนขับ สภาพท้ายรถด้านขวามีร่องรอยการเฉี่ยวชนจนไฟท้ายแตก
ส่วนบริเวณร่องกลางถนนยังพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน รล 7692 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านท้าย และประตูฝั่งซ้ายมีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนจนได้รับความเสียหาย โดยมี นายพูนชัย กิตตินุกุลศักดิ์ เป็นคนขับและไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นายกฤษกร คนขับรถยนต์กระบะโตโยต้า สีขาว ทราบว่า ได้ขับรถกลับจากขายของที่ตลาดโรจนะ โดยระหว่างทาง ได้ขับรถคู่มากับรถยนต์ แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรถยนต์ที่ขับคู่กันมาได้วิ่งแซงรถของตนไปชนกับลูกช้างที่เดินหากินอยู่ริมทาง
หลังเกิดเหตุตนเองได้จอดรถเพื่อส่งสัญญาณให้รถคันอื่นๆ ที่ขับตามทราบ ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าตรวจสอบ
แต่ระหว่างนั้นได้มีรถยนต์เก๋งอีกคันที่คาดว่าน่าจะมองไม่เห็นสัญญาณไฟท้ายรถของตนเอง จึงขับพุ่งชนลูกช้างซ้ำอีกคันก่อนจะเสียหลักไปชนกับรถยนต์กระกระบะอีซูซุ ก่อนที่รถกระบะอีซุซุ จะพุ่งมาชนท้ายรถของตนเอง
ด้าน พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี เผยว่า ลูกช้างที่ถูกรถยนต์พุ่งชนจนตายน่าจะเป็นลูกช้างจากเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา ที่ข้ามทางเข้ามาหากินในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ ซึ่งเป็นเส้นทางการเดินออกหากินของช้างป่า จึงขอให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวัง
และที่ผ่านมา กรมทางหลวงได้นำป้ายมาติดแจ้งเตือนตลอดเส้นทางระยะ 5 กิโลเมตร แต่ยังมีประชาชนบางส่วนที่ไม่ให้ความสนใจ โดยเฉพาะคนนอกพื้นที่ ซึ่งหลังจากนี้ไปจะได้จัดงบประมาณเพื่อขอติดตั้งไฟส่องสว่างบริเวณดังกล่าวเพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถมองเห็นเส้นทางได้สะดวกขึ้น
สำหรับช้างโขลงดังกล่าวน่าจะมีประมาณ 80-100 ตัว และมักจะแยกโขลงกันออกหากินตามพื้นที่ต่างๆ ส่วนซากลูกช้างป่าที่ตายจะได้นำซากไปผ่าพิสูจน์ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่านครนายก ก่อนทำการฝังกลบต่อไป