เมื่อวานนี้ (7 ต.ค.2564) ช้างป่าสายอินดี้ “พลายสาริกา” คงเดินหน้าปฏิบัติภารกิจประจำวัน คือออกนอกเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามโครงการทัวร์บวร (บ้าน-วัด-โรงเรียน) ภาพที่จับล่าสุดขณะอยู่ในสวนกล้วยของชาวบ้านซึ่งพอดิบพอดีกับกระแสฮิต “พืชใบด่าง” “กล้วยใบด่าง” แต่ที่เห็นในภาพนี้ “ตัวด่าง”คงไม่ใช่
น้าหมู บดินทร์ จันทศรีคำ คอยรายงานความเคลื่อนไหวของพลายสาริกาบนเฟซบุ๊คเป็นระยะ หากมีประเด็นน่าสนใจเพื่อให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้รับชม โพสต์ล่าสุดเมื่อวานนี้บอกว่า “ด่างกว่ากล้วย ก็พ่อสาริกานี่แหละ”
พ่อพลายสาริกา ยังเดินหากินวนเวียนอยู่ในพื้นที่การเกษตรของชุมชน หมู่ที่ 1 , 2 , 3 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก วันนี้ชุมชนตำบลสาริกา ยังคงเรียนรู้และศึกษาหาทางแก้ไขปัญหา เพื่อสันติสุขต่อไป
ก่อนหน้านี้ราวสองเดือน (ส.ค.-ก.ย.64) พลายสาริกา ยังคงวนเวียนออกนอกพื้นที่ป่าอยู่เป็นระยะ ตามบ้านบ้าง วัดบ้าง ไม่ก็ไปโรงเรียนซึ่งใกล้กับชุมชน แต่ระยะหลังๆ พลายสาริกาชอบออกแบบฉายเดี่ยว ซึ่งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บรรยากาศค่อนข้างเป็นใจ นั่นอาจเป็นสาเหตุทำให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และกลุ่มเพื่อนช้างนครนายก ผู้ทำหน้าที่ติดตามดูแลความปลอดภัย และคอยป้องกันช้างป่าไม่ให้เข้าไปทำลายพืชผลของชาวบ้าน ต้องคอยติดตามจนแทบไม่ได้หยุดพัก
น้าหมู ให้ข้อมูลภารกิจ “คนเฝ้าช้าง” ไว้น่าอย่างสนใจว่าปัญหาช้างป่าออกมาหากินนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ในปัจจุบันนี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด จึงจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ หรืออาสาสมัครคอยเป็นยามเฝ้าประจำให้หมู่บ้าน
บ้านสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายกก็เช่นกัน มีปัญหาช้างป่าออกมาหากินอาหารในชุมชน จึงจัดตั้งอาสาสมัครชื่อกลุ่มเพื่อนช้างนครนายก จะคอยทำหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยพิทุกษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.13(นางรอง)
โดยภารกิจของเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังช้างจะเริ่มปฎิบัติงานทุกวันตั้งแต่ 17.00 น.จนถึงตอนเช้า โดยทำหน้าที่ป้องกันช้างป่าไม่ให้ไปรบกวนพืชไร่ของชาวบ้าน และคอยพลักดันช้างป่าให้กลับเข้าป่าเพื่อความปลอดภัย
“ชีวิตคนเฝ้าช้างจึงเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ที่สำคัญครับ เพราะต้องปฎิบัติงานด้วยความเสียสละเพื่อส่วนรวม โดยไม่มีเงินเดือน น้าหมูขอส่งกำลังใจให้ “คนเฝ้าช้าง” ครับ” (ชมคลิป)