xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มวิศวกรถูกโจรกรรมเงินจากบัตรเครดิตสูญนับแสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พระนครศรีอยุธยา - หนุ่มวิศวกรถูกโจรกรรมเงินจากบัตรเครดิต สูญนับแสน โดยไม่ทราบสาเหตุ เผยเคยสมัครซื้อของออนไลน์โดยหักจากบัตรเครดิต เจ้าหน้าที่ตำรวจฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจชาชีพ ซึ่งอาจแฝงเข้ามาก่อเหตุจากการแจ้งข้อมูลส่วนตัวให้มิจฉาชีพโดยรู้ตัว

เวลา 16.00 น.วันนี้ (18 ต.ค.) บริเวณชั้น 3 ห้องประชุม ศปก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร รอง ผบช.ภ.1 ปฏิบัติราชการ บช.สอท. เดินทางมาที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อแถลงข่าวกรณีมีผู้เสียหายถูกหักเงินจากบัตรเครดิตโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยมี พล.ต.ต พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เข้าร่วมแถลงข่าว

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า เนื่องด้วยวันนี้ เวลาประมาณ 12.10 น.ได้มีผู้เสียหาย ชื่อ นายอภิรักษ์ แซ่เตีย อายุ 41 ปี ที่อยู่ปัจจุบัน อยู่บ้านเลขที่ 239 หมู่ 4 ซอย 15 หมู่บ้านโรจนะการ์เด้นโฮม ตำบลคานหาม อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ว่าเมื่อวันที่ 16 ต.ค.เวลาประมาณ 04.09. น ได้มีข้อความส่งเข้ามาในทางแอปพลิเคชันของธนาคารไทยพาณิชย์ ผ่านโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายเรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ ครั้งที่ 1 หักเป็นเงินสกุลตุรกี 1.66 เหรียญลีราตุรกี คิดเป็นเงินไทย 6 บาท ครั้งที่ 2 โอนเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ของผู้เสียหายผ่านบัตรเครดิตเป็นเงินสกุลตุรกี 1.66 เหรียญลีลาตุรกี คิดเป็นเงินไทย 6 บาท คืนเข้าบัญชีของผู้เสียหาย

ครั้งที่ 3 หักเงินจากบัตรเครดิตของผู้เสียหายเป็นเงินตุรกี 9,000 เหรียญ ลีลาตุรกี คิดเป็นเงินไทย 33,869.30 ครั้งที่ 4 หักเงินจากบัตรเครดิตของผู้เสียหายเป็นเงินตุรกี 210,000 เหรียญลีลาตุรกี คิดเป็นเงินไทย 79,028.36 บาท รวมเงินของผู้เสียหายที่ถูกหักจากบัตรเครดิตเป็นเงินจำนวน 112,897.66 บาท จากนั้นผู้เสียหายได้ไปโพสต์ลงในกลุ่มแชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัวว่าถูกแฮกเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว

ทาง พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ให้ฝ่ายสืบสวนได้สอบถามผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 9 ก.ย.64 ผู้เสียหายได้สั่งซื้อกล้องยี่ห้อ dji ราคา 14,000 บาท ผ่านเว็บขายของออนไลน์แห่งหนึ่ง ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ ต่อมาพบความผิดปกติ คือ เน็ตฟิกซ์ ที่ผู้เสียหายสมัครไว้มีแอ็กเคานต์ เพิ่มจำนวน 1 แอ็กเคานต์ ชื่อ raksci.s และมีการเรียกเก็บเงินจากผู้เสียหายก่อนที่จะพบการหักเงินจากบัตรเครดิตดังกล่าว ซึ่งผู้เสียหายเคยสมัครเรียนผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศโดยใส่ข้อมูลบัตรเครดิตและรหัสความปลอดภัยหลังบัตรในการสมัครเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้คนร้ายแฮกข้อมูลบัตรเครดิตดังกล่าวได้ ในส่วนของ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ดำเนินการดังนี้ 1.รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว 2.ได้สอบปากคำของผู้เสียหายเบื้องต้นไว้แล้ว 3.ติดต่อประสานข้อมูลกับธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่และสาขาเจ้าคุณทหารลาดกระบังเจ้าของบัญชี 4.ประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท. เพื่อร่วมกันทำการสืบสวนคดีดังกล่าว

ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานทางธนาคารได้แล้ว ได้รับคำตอบว่าในกรณีของผู้เสียหายนั้นไม่ต้องมีการชดใช้กับทางธนาคาร แต่ธนาคารจะเป็นผู้เสียหายเอง และมาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเอง

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจชาชีพ ซึ่งอาจแฝงเข้ามาก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวและระมัดระวังในการให้ข้อมูลหรือการนำเข้าข้อมูลเกี่ยวกับทางการเงินและบัตรเครดิตหากพบเบาะแสหรือพบการกระทำผิดให้แจ้ง ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อทราบดำเนินการต่อไป

ส่วนทางด้าน นายอภิรักษ์ แซ่เตีย ผู้เสียหาย กล่าวขอบพระคุณทางผู้บัญชาการภาค 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายที่เล็งเห็นความทุกข์ของประชาชนโดยรีบดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยก่อนหน้านี้ ตนคิดมากว่าจะต้องเป็นหนี้กับทางธนาคารโดยที่ไม่ได้นำบัตรเครดิตไปกดเลย หลังจากนี้คงต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้บัตร ส่วนที่ตนโดนแฮกบัตรเครดิตนั้นคาดว่า บัตรเครดิตนั้นตนผูกไว้กับแอปซื้อของออนไลน์ จึงเป็นช่องทางของพวกมิจฉาชีพลงมือได้








กำลังโหลดความคิดเห็น