จันทบุรี - เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ใน จ.จันทบุรี ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนประชาชนเท่านั้น ขณะที่ยังมีเกษตรกรอีกจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมสวนทุเรียน
จากอิทธิพลจากพายุโซนร้อนกำลังแรง "คมปาซุ" ที่นอกจากจะทำให้มีฝนตกหนักแล้ว ยังเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 จังหวัดในภาคตะวันออก ทั้งสระแก้ว จันทบุรี ตราด และปราจีนบุรี จนกลายเป็นเมืองบาดาลในช่วงกลางดึกคืนวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด แม้ระดับน้ำในหลายพื้นที่จะเริ่มลดลงตามลำดับ แต่ได้สร้างความเสียหายให้ชาวบ้าน และชาวสวนเป็นจำนวนมาก
วันนี้ (15 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำท่วมในเขตตังเมืองจันทบุรี พบว่า บริเวณถนนสุขุมวิทเรื่อยไปตามถนน เลียบแม่น้ำจันทบุรีตะวันตก ยังคงมีน้ำท่วมขังหลายจุด โดยเฉพาะฝั่งติดแม่น้ำจันทบุรี พื้นที่ต่ำมีน้ำล้นตลิ่งที่ยังคงถูกน้ำท่วมเกือบทั้งหมด
ส่วนริมถนนฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นสวนผลไม้และบ้านเรือนประชาชนยังคงมีน้ำท่วมเป็นระยะ แต่ดูเหมือนว่าที่หนักที่สุดคือ สวนทุเรียนในเขต ต.แสลง อ.เมืองจันทบุรี ที่ถูกน้ำท่วมสูงจนแปลงทุเรียนได้รับความเสียหายเกือบ 10 ไร่
โดยพบว่าเป็นแปลงทุเรียนที่เกษตรกรเพิ่งลงต้นกล้าได้ไม่นาน และบางส่วนเป็นต้นทุเรียนที่เริ่มโตเต็มที่แล้ว
จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า น้ำที่ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ตลอด 2 วันที่ผ่านมามีความสูงเฉลี่ย 60 เซนติเมตร-1 เมตร ขณะนี้ยังไม่รู้จะระบายออกได้อย่างไร และหากรอให้ระดับน้ำลดเองตามธรรมชาติยังไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าใดเนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำจันทบุรี ยังล้นตลิ่งอยู่
ขณะที่ชาวบ้านอีกรายบอกว่า หากต้นทุเรียนถูกน้ำท่วมเกิน 3 วัน อาจเกิดปัญหารากเน่า ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านได้แต่หวังว่าขอให้ระดับน้ำลดลงเร็วที่สุดเท่านั้น
