ศูนย์ข่าวศรีราชา - “สนธยา” ประกาศลุย 5 กิจกรรมใหญ่ส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงปลายปี รับนโยบายเปิดเมืองรับต่างชาติ 1 พ.ย.นี้ของรัฐบาล เชื่อสร้างสีสันได้อีกครั้ง ขณะที่ภาคธุรกิจกลางคืนรอรับการพิจารณาให้เปิดบริการได้ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้
ภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศนโยบายเปิดประเทศใน 120 วัน ที่จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจาก 10 ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำและจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เช่น อังกฤษ สิงคโปร์ เยอร มนี จีน อเมริกา สามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป
และมีเป้าหมายที่จะพิจารณาให้ผู้ประกอบการร้านอาหารสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และให้สถานที่พักผ่อนหย่อนใจรวมทั้งสถานบันเทิงสามารถเปิดบริการได้อีกครั้งในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย แต่ต้องดำเนินงานภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนั้น
วันนี้ (12 ต.ค.) นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้เผยถึงการประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีในช่วงค่ำวานนี้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่จะส่งผลดี ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเฉพาะเมืองพัทยา หลังจากที่ต้องซบเซามานานจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยปัจจัยในเรื่องของการไม่ต้องกักตัวถือเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างแรงกระตุ้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมาเมืองพัทยามากยิ่งขึ้น หลังก่อนหน้านี้รัฐบาลเข้มงวดเรื่องการกักตัวเป็น 7-14 วัน และต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ถึง 3 ครั้ง ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น อาจทำให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนเป้าหมายการเดินทางได้
ทั้งนี้ เมืองพัทยาจะเดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวหลังเปิดเมืองในวันที่ 1 พ.ย.นี้ไปจนถึงสิ้นปี 2564 รวม 5 กิจกรรมใหญ่ โดยจะเริ่มตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือน พ.ย.ที่จะมีทั้งงานพัทยามิวสิค เฟสติวัล งานลอยกระทง งานพลุนานาชาติ งานเดินกินถิ่นนาเกลือ และเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หรือพัทยาเคานต์ดาวน์
ยืนยันทุกกิจกรรมจะดำเนินการตามรูปแบบตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโควิด-19
สถานบันเทิงตื่นตัวรับหลังมีหวังได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้งหลังวันที่ 1 ธ.ค.
เช่นเดียวกับ นายดำรงเกียรติ พินิจการ เลขานุการสมาคมสถานบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ออกมาเปิดเผยถึงการตื่นตัวรับนโยบายเปิดประเทศของนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นข่าวดีที่จะทำให้ทั้งผู้ประกอบการและแรงงานในภาคท่องเที่ยวทั้งภาคกลางวันและกลางคืนได้กลับมาทำมาหากินอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการอาจต้องจับตาการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังการเปิดประเทศว่าเป็นกลุ่มใดเพื่อปรับรูปแบบงานบริการและจำนวนแรงงานให้ตรงเป้าหมาย
“แต่หากยังไม่ได้รับการตอบที่ดีผู้ประกอบการ จะต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้งว่าการเปิดให้บริการจะคุ้มค่ากับการลงทุนครั้งใหม่หรือไม่ ในทางกลับกันหากทุกอย่างเป็นไปตามคาดภาคธุรกิจกลางคืนพร้อมที่จะกลับมาสร้างความคึกคักให้เมืองพัทยาอีกครั้ง”
นอกจากนั้น ยังขอเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ทั้งร้านอาหาร บาร์ หรือบาร์เบียร์สามารถเปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังต้องปิดกิจการมานานเช่นกัน
