ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกเมืองพัทยาเผย “ประยุทธ์” เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพลงทุน-ท่องเที่ยว และระบบแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเมืองพัทยา พร้อมหนุนโครงการ NEO PATTAYA สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวใน EEC
วันนี้ (6 ต.ค.) นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เผยถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ได้เห็นชอบการนำเสนอแผนและโครงการการพัฒนาหลายด้านของเมืองพัทยา เพื่อยกระดับให้เป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวและการลงทุนอย่างแท้จริง
โดยการประชุมดังกล่าวยังมีแนวทางเห็นชอบเกี่ยวกับแผนพัฒนาเมืองพัทยา หรือ NEO PATTAYA การพัฒนาพื้นที่เมืองพัทยาให้เป็นศูนย์กลางทางการลงทุนและการท่องเที่ยวทั้งในระดับ EEC และระดับประเทศ
"ในเรื่องของการการท่องเที่ยวยังได้มีการเสนอโครงการพัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งบริเวณชายหาดพัทยา หาดจอมเทียน เขาทัพพระยา หรือแม้กระทั่งตลาดค้าอาหารทะเลสดลานโพธิ์นาเกลือ ตามโครงการ Old town นาเกลือ และ NEO เกาะล้านด้วย ทั้ง 5 สถานที่นี้ต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่สร้างแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี"
นายสนธยา ยังเผยถึงโครงการ Old Town นาเกลือว่า จะมีกิจกรรมรวม 12 โครงการซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการไปบางแล้ว และบางโครงการอยู่ระหว่างการจัดทำ ซึ่งที่ผ่านมา ได้รับการพิจารณาและอนุมัติงบประมาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าโครงการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในปี 2566
โดยโครงการเหล่านี้จะทำให้ตลาดลานโพธิ์และชุมชนนาเกลือ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะเรื่องของการค้าอาหารทะเลสด ที่จะต้องปรับปรุงตลาดให้มีความสวยงาม สะดวก สะอาดและถูกสุขลักษณะ ได้มาตรฐาน
ส่วงเรื่องของร้านค้าและลานอเนกประสงค์จะพัฒนาให้เป็นสถานที่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในการนั่งรับประทานอาหาร ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดสร้างอาคารที่จอดรถ
“นอกจากการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแล้วปัญหาสำคัญของเมืองพัทยาอีกประการคือ ระบบระบายน้ำและระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งกรณีนี้ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบแล้ว รวมทั้งแผนแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว โดยในระยะสั้นอยู่ระหว่างการวางท่อระบายน้ำขนาด 2 เมตรเลียบทางรถไฟ เพื่อรับน้ำจากฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นเขตชุมชนทั้งจาก ต.หนองปรือ หนองปลาไหล และห้วยใหญ่”
โดยโครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 ขณะที่แผนระยะกลาง จะมีการสนับสนุนงบประมาณในการซ่อมปั๊มสถานีสูบขนาดใหญ่จำนวน 6 สถานี ตามพื้นที่ปัญหาเพื่อให้สามารถสูบระบายน้ำที่ท่วมขังซ้ำซากตามแหล่งชุมชน และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สู่คลองสาธารณะและทะเล
ขณะที่แผนในระยะยาว ในอดีตเมืองพัทยาเคยเสนอผ่านไปยังคณะกรรมการนโยบายน้ำแห่งชาติ ที่จะร่วมกักรมโยธาธิการและผังเมืองในการวางแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังทั้งระบบ กระทั่งปี 2564 โครงการนี้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.แล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการจัดสรรงบประมาณที่คาดว่าน่าจะทราบผลในปีงบประมาณ 2566
“สุดท้ายคือปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียที่จะต้องขยายขีดความสามารถในการบำบัดและรองรับน้ำเสียให้ได้จำนวนมากตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และประชากร”
โดยปัจจุบันเมืองพัทยา มีโรงบำบัดน้ำเสีย 2 แห่ง คือ ซอยวัดหนองใหญ่ ที่รับน้ำเสียได้วันละ 6.5 หมื่น ลบ.ม. แต่กำลังมีการออกแบบเพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับน้ำเสียเพิ่มขึ้นเป็น 1.5-2 แสน ลบ.ม.ต่อวัน
ส่วนโรงบำบัดซอยวัดบุญกัญจนาราม มีความสามารถในการบำบัดน้ำเสียได้วันละ 4 หมื่น ลบ.ม.แต่รับน้ำเสียเพียง 2 หมื่น ลบ.ม. ซึ่งในอนาคตจะต้องมีการพัฒนาและเพิ่มความสามารถในการบำบัดน้ำเสียให้มากเพิ่มขึ้นด้วย