ศูนย์ข่าวศรีราชา - อวสานอาคาร “บ้านสุขาวดี” รุกที่ 11 ไร่ หลังศาลปกครองไม่มีคำสั่งทุเลา หรือคุ้มครองชั่วคราว ด้านเมืองพัทยา เตรียมตั้งกรรมการรื้อถอนพร้อมเดินหน้าลุยเร็วๆ นี้
จากกรณีที่เมืองพัทยา ได้เริ่มต้นกระบวนการออกคำสั่งทางปกครองแบบนับ 1 ใหม่อีกรอบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและครอบคลุมทั้งในด้านเนื้อหา ข้อมูลและหลักฐานประกอบ สำหรับใช้ประกอบคำสั่งรื้อถอนอาคาร “บ้านสุขาวดี” รุกที่ 11 ไร่ ที่มีการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตและอยู่ในพื้นที่สาธารณะ
โดยเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องราวมหากาพย์ระหว่างเมืองพัทยา และเอกชนที่รุกล้ำพื้นที่สาธารณะจนกลายเป็นที่จับตาของสังคมว่าสุดท้ายอำนาจรัฐจะสามารถเอาผิดภาคเอกชนที่มีทั้งอำนาจทางการเงิน และหน้าตาทางสังคมได้หรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมา “บ้านสุขาวดี” ได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครอ เพื่อขอคำสั่งคุ้มครองโดยอ้างคำสั่งเมืองพัทยา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ขณะที่การดำเนินการครั้งใหม่ของเจ้าหน้าที่เมืองพัทยา ได้ทำงานอย่างรัดกุมและรอบคอบเนื่องจากมีการปรึกษาในส่วนของกลุ่มกฎหมาย และด้านต่างๆ อย่างรัดกุม โดยขั้นตอนทั้งหมดมีการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ รวมทั้งการรังวัดระวางที่ดินจากสำนักงานที่ดินอำเภอบางละมุง และพยานแวดล้อม ก่อนนำรั้วเหล็กไปปิดล้อมอาคาร A ไว้เพื่อระงับการใช้อาคาร และรอความคืบหน้าผลการปฏิบัติทางกฎหมาย
กระทั่งต่อมา จากการประชุมของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จ.ชลบุรี ของ “บ้านสุขาวดี” เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2564 ที่ผ่านมาได้ผลสรุปชัดเจนเป็นมติ วันที่ 30 มิ.ย.2564 ว่าให้ยกคำอุทธรณ์ดังกล่าวด้วยระบุว่า คำสั่งเมืองพัทยา ชอบด้วยกฎหมาย เมืองพัทยา จึงได้นำหนังสือคำสั่งที่เป็นมติยกคำอุทธรณ์ไปปิดประกาศไว้ที่ “บ้านสุขาวดี” อีกครั้ง
และตามกฎหมายจะให้ระยะเวลา “บ้านสุขาวดี” เป็นเวลา 30 วันยื่นร้องต่อศาลปกครองสูงสุดอีกครั้ง ถ้าหากเห็นว่ามติดังกล่าวไม่มีความเป็นธรรมนั้น
ล่าสุด มีรายงานว่า “บ้านสุขาวดี” ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองอีกครั้ง โดยระบุว่า คำสั่งเมืองพัทยา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งปรากฏว่าทางศาลปกครองได้รับเรื่องดังกล่าวไว้แต่ไม่ได้มีคำสั่งทุเลาหรือออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวอาคารแต่อย่างใด
โดย นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคารสำนักการช่างเมืองพัทยา เผยว่า เมื่อศาลปกครองไม่ออกคำสั่งคุ้มครอง เมืองพัทยา จึงมีสิทธิและอำนาจตามกฎหมายที่จะเข้าไปดำเนินการรื้อถอนอาคารได้ตามอำนาจในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการและจะเข้าไปทำการรื้อถอนอาคารที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายในเร็ววันนี้
อนึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมืองพัทยาได้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ “บ้านสุขาวดี” ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อปิดหมายประกาศยกเลิกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และการปิดหมายประกาศคำสั่งแบบ ค.3, ค.4, ค.7 และ ค.10 บริเวณอาคาร 3 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารเรื่องการระงับการใช้ ห้ามก่อสร้างดัดแปลง และให้ทำการรื้อถอนออกอาคารจากพื้นที่ตั้งแต่ปี 2562
ประกอบด้วย อาคาร A ซึ่งเป็นอาคารโครงเหล็ก 2 ชั้น ขนาด 18.30 คูณ 55.30 เมตร จำนวน 1 หลัง และป้ายโครงสร้างเหล็กขนาด 10 คูณ 13 เมตร จำนวน 2 ป้าย ซึ่งพบว่าเป็นการก่อสร้างบนพื้นที่สาธารณะ หรือมีการบุกรุกที่ดินขนาด 11 ไร่ 1 งาน
ส่วนอาคาร B เป็นอาคาร ค.ส.ล.1 ชั้น ขนาด 35 คูณ 40 เมตร จำนวน 1 หลัง พบว่ามีพื้นที่บางส่วนของอาคารก่อสร้างทับแนวระยะถอยร่นจากระดับน้ำทะเล
และอาคาร C ที่เป็นอาคาร ค.ส.ล.1 ชั้น ขนาด 5 คูณ 15 เมตร จำนวน 1 หลัง โดยพบว่าทั้งอาคารอยู่ในแนวระยะถอยร่นจากระดับน้ำทะเล ตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีการออกคำสั่งลงนามโดย นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ซึ่งถือเป็นการดำเนินงานในรอบที่ 2
หลังการออกประกาศคำสั่งที่ในครั้งแรก “บ้านสุขาวดี” ในนามของบริษัท เฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี ซึ่งผลพิจารณาปรากฏว่าประกาศคำสั่งเมืองพัทยายังไม่ครบองค์ประกอบและเหตุผลในการรื้อถอนไม่ครบถ้วนจึงให้มีการดำเนินการใหม่