กาญจนบุรี - 2 สามีภรรยาชาวปทุม ติดเชื้อโควิด-19 เชื้อลงปอดอาการหนัก แอบกินสมุนไพรหมอเณรที่แม่ให้มา สุดท้ายหาย บึ่งรถขอบคุณหมอเณรถึงเมืองกาญจน์ แนะผู้ติดโควิด-19 หันมาใช้สมุนไพรเป็นทางเลือก
วันนี้ (8 ต.ค.) ที่สวนสมุนไพรหมอเณร เลขที่ 36 หมู่ 10 ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี นายศิวณัช น.ส.กมลทิพย์ 2 สามีภรรยา พร้อมครอบครัวชาว ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี เข้าพบนายชัยรัตน์ นนทชัย หรือหมอเณร หมอสมุนไพรชื่อดังเพื่อขอบคุณที่ส่งสมุนไพรรักษาอาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กินจนหายขาดจากการติดเชื้อ
ทั้งนี้ นายศิวณัช และ น.ส.กมลทิพย์ ร่วมกันเปิดเผยภายหลังว่า ตนทั้งสองทำงานอยู่แคมป์ก่อสร้างที่อยู่ภายในโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ที่ผ่านมาตนทั้งสองไปทำงานตามปกติ จนกระทั่งวันที่ 12 ก.ย.สามีเริ่มมีอาการไข้ ไอ และเมื่อยล้า วันที่ 13 ก.ย.จึงไปพบหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง ซึ่งทางคลินิกให้ยามากิน
ต่อมา วันที่ 14 ก.ย.ตนทั้งสองจึงเดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาล โดยในวันดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาเชื้อให้เฉพาะสามี โดยแจ้งว่าภรรยาไม่มีอาการอะไรที่จะต้องตรวจหาเชื้อ การตรวจหาเชื้อจะทราบผลภายใน 2 วัน ต่อมาวันที่ 15 ก.ย.ขณะกักตัวอยู่ที่ห้องพักภายในแคมป์คนงาน สามีเริ่มอาการลิ้นไม่ได้รส จมูกไม่ได้กลิ่น และหายใจไม่ออก จึงโทรศัพท์ไปเล่าอาการให้แม่ฟัง เมื่อแม่ทราบจึงให้กลับบ้านที่ กทม.
ดังนั้น ตนทั้งสองจึงตัดสินใจขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านที่ กทม.โดยไม่ได้รอฟังผลตรวจจากโรงพยาบาล เมื่อไปถึงแยกห้องกันอยู่เพื่อกักตัว ส่วนแม่ได้นำสมุนไพรของหมอเณร มาให้กินโดยมีทั้งยาผง ยาต้มและยาลูกกลอน กินวันละ 4 เวลา เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน โดยเริ่มกินสมุนไพรตั้งแต่วันที่ 15-16 ก.ย.กินได้เพียง 2 วัน ปรากฏว่าอาการของสามีเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนภรรยาที่ยังไม่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้านี้มีผื่นเม็ดขึ้นตามร่างกาย อาการเริ่มทุเลาลง
จนกระทั่งวันที่ 16 ก.ย. เราสองคน จึงเดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ผลปรากฏติดเชื้อโควิด-19 ทั้งคู่ วันที่ 17 ก.ย.ทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวไปรักษาที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่จังหวัดปทุมธานี และในวันที่ 18 ก.ย.แพทย์ได้ทำการเอกซเรย์ปอด ผลปรากฏว่าสามีพบเชื้อลงปอด อีกทั้งปอดเป็นฝ้า ซึ่งต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกรงว่าจะหายใจด้วยตนเองไม่ได้ ส่วนภรรยาไม่พบเชื้อลงปอดแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าสามีน่าจะติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.วันที่เริ่มไม่สบาย ส่วนภรรยานั้นมาติดเชื้อภายหลังและได้กินสมุนไพรทันเชื้อจึงไม่ลงปอด
นายศิรณัช และ น.ส.กมลทิพย์ ร่วมกันเปิดเผยว่า ทั้งนี้ระหว่างที่รักษาอยู่ที่โรงแรม ตนทั้งสองต้องแอบกินสมุนไพรหมอเณรทุกวัน โดยไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่รู้ สำหรับการเอกซเรย์ปอดจะทำ 2 วันต่อครั้ง ปรากฏว่าฝ้าที่ปอดของสามีเริ่มลดลงทุกวัน จนถึงวันที่ 23 ก.ย.สามีกลับมามีสุขภาพแข็งแรงเหมือนคนปกติ กินข้าวได้ตามปกติ หายใจได้ตามปกติ เหมือนคนทั่วไป โดยตนทั้งสองกินสมุนไพรหมอเณรทุกวันจนหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันที่ 30 ก.ย. และทุกวันนี้ตนกับสามียังคงกินสมุนไพรอยู่
การที่พวกตนเชื่อมั่นในสมุนไพรหมอเณรนั้น เนื่องมาจากว่า ก่อนหน้านี้แม่กับพ่อ รวมทั้งหลานอีกสองคน ต่างติดเชื้อโควิด-19 กันทั้งบ้าน ที่สำคัญเชื้อลงปอดกันทุกคน โดยเฉพาะพ่ออาการหนักมาก นับว่าเป็นเรื่องที่โชคดีที่มีคนรู้จักกับหมอเณร จึงสั่งสมุนไพรไปให้ จนกระทั่งหายจากการติดเชื้อโควิด-19 กันหมด ดังนั้น จึงอยากจะฝากไปถึงผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ลองหันมาใช้สมุนไพรหมอเณรให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกต่อไป
ด้านนายชัยรัตน์ นนทชัย หรือหมอเณร กล่าวว่า การที่เราค้นพบสมุนไพรตัวสร้างภูมิที่แท้จริงของมนุษย์ หากได้กินเชื้อจะไม่ลงปอด แต่ถึงแม้เชื้อลงปอดไปแล้วก็ตามเมื่อได้กินสมุนไพรเข้าไปหายหมดทุกคน ในกรณีที่ตนรักษาประมาณ 100 ราย ไม่มีรายไหนเสียชีวิต บางรายเชื้อลงปอดและมีอาการหนักเมื่อได้กินสมุนไพรก็หายกลับมาแข็งแรง และสามารถทำงานได้ตามปกติ เพราะฉะนั้นประสิทธิภาพของตัวยาสมุนไพร ตนกล้าการันตีได้
จึงอยากจะฝากไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องให้หันกลับมาดูยาสมุนไพรไทยและการแพทย์แผนโบราณ ซึ่งการค้นพบยาสมุนไพรสร้างไฟธาตุตรงกับการที่ ศบค.แถลงข่าวว่าประเทศที่กินพริกที่มีรสเผ็ดโอกาสเสียชีวิตน้อยกว่าประเทศที่ไม่กินพริก ซึ่งก็ตรงกับสมุนไพรของตน เพราะสมุนไพรของตนเป็นสมันไพรสร้างไฟธาตุที่มีรสชาติเผ็ดและร้อน และเป็นยาเพียงตัวเดียวที่ค้นพบในโลก ซึ่งเป็นสมุนไพรสร้างภูมิของมันเองตามธรรมชาติ สามารถป้องกันและรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ หากรัฐบาลหรือกระทรวงสาธารณสุขเปิดใจยอมรับสมุนไพร เชื่อได้เลยว่าจะประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้เป็นจำนวนมหาศาลต่อปี