แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ (6 ต.ค.) พบผู้ป่วยรายใหม่ 9,866 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 1,667,097 ราย รักษาหายเพิ่ม 10,115 ราย ยังอยู่ระหว่างการรักษา 108,022 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 3,017 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 720 ราย มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 102 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 17,305 ราย
ส่วนจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 5 ตุลาคม มีทั้งสิ้น 56,656,247 โดส แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 33,505,887 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 21,595,916 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 1,554,444 ราย
สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,208 ราย สงขลา 666 ราย สมุทรปราการ 602 ราย ชลบุรี 601 ราย นราธิวาส 501 ราย ยะลา 446 ราย ระยอง 379 ราย ปราจีนบุรี 313 ราย ปัตตานี 309 ราย และนครศรีธรรมราช 259 ราย ส่วน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กราฟแสดงอัตราการติดเชื้อยังเชิดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากถึง 1,922 ราย คิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่าในพื้นที่อื่นๆ ยังเกิดคลัสเตอร์การติดเชื้อเพิ่ม โดยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นคลัสเตอร์บุคลากรทางการแพทย์ คลัสเตอร์ในโรงงานที่ จ.จันทบุรี ชลบุรี และตราด คลัสเตอร์แรงงานไทยที่กลับจากการไปทำงานเก็บผลไม้ในประเทศสวีเดน คลัสเตอร์แรงงานต่างด้าวมารับจ้างเก็บลำไยที่ จ.จันทบุรี คลัสเตอร์ในอู่ซ่อมรถที่ จ.จันทบุรี คลัสเตอร์ในโรงไฟฟ้าที่ จ.ชลบุรี ขณะที่ จ.ระยอง พบคลัสเตอร์แพปลาและคลัสเตอร์ค่ายทหาร ทำให้ภาคตะวันออกมีอัตราการติดเชื้อสูง
นอกจากนี้ ยังพบคลัสเตอร์แพปลาที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ คลัสเตอร์วงเหล้าในงานเลี้ยงสังสรรค์ฉลองวันเกิด จ.สระแก้ว คลัสเตอร์ในงานศพที่ จ.สุรินทร์ จันทบุรี ตราด อุดรธานี อุบลราชธานี และปัตตานี คลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้าง ที่ จ.กาญจนบุรี จันทบุรี ระยอง และสมุทรปราการ รวมถึงคลัสเตอร์ในโรงเรียน ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ด้วย