เชียงราย - หอการค้าเมืองพ่อขุนฯ จี้รัฐคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม พร้อมเร่งฉีดวัคซีนโควิด..ชี้ถ้าไม่ทำไม่เกินสิ้นปีนี้ทุนท้องถิ่นเดี้ยงสนิทแน่ จ่อกล่อมจีนเปิดคาราวานท่องเที่ยวอาร์สามเออีกรอบ
นายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ไวรัสโควิด-19 ระบาดระลอก 3 ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักและมากกว่าระลอก 1 และ 2 ที่แก้ไขได้อย่างรวดเร็วและใช้เวลาสั้น แต่ระลอกที่ 3 ผ่านมาร่วม 7-8 เดือนยังไม่ยุติ
ส่งผลกระทบภาคธุรกิจ โดยเฉพาะการบริการประเภทรถเช่า รถตู้นำเที่ยว ฯลฯ มีลูกค้าเป็น 0% ส่วนโรงแรมที่พักและร้านอาหารเหลือไม่ถึง 10% โรงแรมที่พักขนาดกลางกว่า 10 แห่งต้องปิดตัวลงชั่วคราว เพราะเป็นทุนท้องถิ่นที่มีสายป่านทางธุรกิจไม่ยาวเหมือนรายใหญ่ๆ ยิ่งเมื่อมีการหยุดบริการทางเครื่องบินไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ในช่วงที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าหากสิ้นปี 2564 นี้ สถานการณ์ไม่กระเตื้องขึ้น ภาคธุรกิจหลายแห่งทุนท้องถิ่นขนาดกลางและเล็กต้องเสียหายหนักอย่างแน่นอน
นายอนุรัตน์กล่าวว่า สำหรับตนซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหาร “ท่าน้ำภูแล” ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย ก็ต้องดิ้นรนปรับตัวอย่างขนานใหญ่เช่นกัน จากเดิมเคยมีพนักงานอยู่ประมาณ 40-50 คน ทั้งคนที่อยู่ประจำและงานล่วงเวลา เมื่อมีวิกฤตโควิด-19 ในรอบที่ 3 ทำให้ต้องลดพนักงานลงเหลือเพียง 5-6 คน และยังได้หารือกับแต่ละคนให้ทำงานแบบไม่เต็มสัปดาห์หรือสลับกันไปทำงาน หากลูกค้ามากค่อยเรียกให้ไปทำงาน เป็นต้น
วิกฤตนี้เกิดขึ้นในช่วงเดือน เม.ย.-ส.ค.ที่ผ่านมา และหนักสุดช่วงเดือน ส.ค. 2564 ก่อนที่จะกระเตื้องขึ้นมาบ้างในเดือนกันยายนนี้ หลังจากที่คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ได้ผ่อนปรนให้สายการบินบริการเส้นทางบินไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้เหมือนเดิม
ดังนั้นจึงขอให้ภาครัฐเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบต่างๆ ในช่วงก่อนสิ้นปีนี้ เช่น ส่งเสริมการจัดการประชุมสัมมนาในต่างจังหวัด หรือหมุนเวียนในกลุ่มจังหวัด ฯลฯ เพื่อกระจายรายได้ เร่งการฉีดวัคซีนป้องกันทั้งเข็ม 2 เข็ม 3 ให้รวดเร็วและกระจายให้ถึง 70% ของประชากรทั้งหมดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
ขณะที่ภาคเอกชนได้ประสานในการฉีดวัคซีนในผู้ประกอบการอย่างหนักอยู่แล้ว รวมทั้งจัดเตรียมสถานที่ต่างๆ เพื่อรองรับโครงการ "เจียงฮายน่าแอ่ว" และร่วมกับภาครัฐส่งเสริมโครงการ Lanna Creative รวมทั้งสนับสนุนด้านอาหาร หน้ากากอนามัย ฯลฯ ไปยังหน่วยงานองค์กรต่างๆ เพื่อแบ่งเบาสถานการณ์และรองรับการเปิดเมืองเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมในอนาคต
สำหรับการประชุมสัมมนาเตรียมความพร้อมพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศตามเส้นทางอาร์สามเอ (ไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้) หลังสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 วันนี้ (14 ก.ย. 64) ณ ห้องประชุมบางกอก โรงแรมเชียงของทีคการ์เด้น ริเวอร์ฟร้อนท์ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว ซึ่งผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ผู้ว่าการมณฑลยูนนาน ประเทศจีน เจ้าแขวงบ่อแก้ว และเจ้าแขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว หรือตัวแทน จะร่วมเสนอแนวทางผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
จากนั้นจะเปิดให้ฝ่ายต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงหอการค้า จ.เชียงราย และสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.เชียงราย ได้เสนอแนวทางการพัฒนาการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และโลจิสติกส์เชื่อมถนนอาร์สามเอด้วย
“ทางหอการค้าฯ จะเสนอให้เปิดคาราวานนักท่องเที่ยวจีนผ่านถนนอาร์สามเอ เข้า อ.เชียงของ แบบเดิมเมื่อหลายปีก่อนอีกครั้ง เพราะในจีนถือว่าแก้ปัญหาโควิด-19 ได้อย่างชะงัด และหากนักท่องเที่ยวจีนมาก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคบริการของภาคเหนือได้อย่างแน่นอน แต่ต้องมีการอำนวยความสะดวกในการเข้าเมืองได้ง่ายขึ้นแทนการให้แจ้งก่อนล่วงหน้า 1 เดือน จัดอบรมใบขับขี่ ฯลฯ ซึ่งเคยทำให้นักท่องเที่ยวจีนหดหายไปหมดก่อนที่จะมีวิกฤตโควิด-19 เกิดขึ้น”
ส่วนในระยะยาว จ.เชียงรายต้องเตรียมการรองรับการเปิดเมืองรวมถึงการเปิดประเทศเมื่อสถานการณ์ไวรัสโรควิด-19 สามารถควบคุมได้ โดยเฉพาะการประสานความร่วมมือกับ สปป.ลาว และจีน เนื่องจากปัจจุบันมีการสร้างถนนมอเตอร์เวย์จากแขวงบ่อแก้ว-บ่อเต็น-หลวงน้ำทา ซึ่งติดกับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากจีน-สปป.ลาว ซึ่งสามารถเชื่อมการขนส่งมายัง อ.เชียงของ ทางถนนอาร์สามเอได้ รวมทั้งไทยก็กำลังก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ จะทำให้การเชื่อมโยงไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้สะดวกมากขึ้น จึงต้องวางแผนรองรับเอาไว้ เมื่อวิกฤตผ่านพ้นไปก็สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว