ตาก - รอยเท้าพาซวย-เจ้าหน้าที่ตาไว..ฝ่ายปกครองสนธิกำลังทหารตรึงเข้มชายแดนแม่สอดตามจับได้อีก แรงงานต่างด้าวลอบข้ามแดนแบบรายวัน บอกโควิดระบาด บ้านเกิดไม่มีงาน จ่ายค่านำพา 15,000 บาทหวังไปตายดาบหน้า
เช้ามืดวันนี้ (6 ก.ย. 64) นายสมชาย ไตรทิพย์ชาติสกุล นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก ได้นำชุดเคลื่อนที่เร็วกองร้อย อส.แม่สอดที่ 3 สนธิกำลังกับทหาร ฉก ร.4 ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านริมเมย หมู่ที่ 2 อ.แม่สอด ร่วมลาดตระเวนในจุดล่อแหลมใกล้ด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 1 ติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อสกัดกั้นการลักลอบข้ามชายแดนผิดกฎหมาย
แต่ระหว่างเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนไปถึงพื้นที่เลียบแนวชายแดนใกล้เกาะกลางแม่น้ำเมย พบรอยเท้าคนหลายรอยเหยียบย่ำโคลนมาใหม่ๆ เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามรอยเท้าที่มุ่งหน้าไปในป่ารกทึบจุดลับสายตาและเป็นจุดล่อแหลม กระทั่งพบกลุ่มคนทั้งชาย-หญิงซ่อนตัวในป่า
เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ หนึ่งในนั้นได้วิ่งหนีและกระโดดลงแม่น้ำเมยว่ายน้ำข้ามฝั่งชายแดนไปได้ แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวคนที่เหลือไว้ได้ 5 ราย เป็นชาย 3 ราย และเป็นหญิง 2 ราย ทั้งหมดเป็นแรงงานสัญชาติเมียนมาผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งหมดออกจากป่าชายแดนแม่สอดมาสอบสวนในพื้นที่โล่งแจ้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยและป้องกันโควิดแก่ทีมเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน
จากการสอบสวนนายเม่อ่อง อายุ 38 ปี หนึ่งในแรงงานชาวเมียนมาที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้การเบื้องต้นว่า ตนพร้อมเพื่อนได้รับการชักชวนจากนายหน้าไม่ทราบชื่อว่าสามารถพาลักลอบเข้าไปทำงานในหัวเมืองชั้นในของไทยได้ โดยต้องเสียค่านายหน้าคนละ 15,000 บาท จึงตัดสินใจนำเงินเก็บจ่ายเป็นค่านำพาลอบข้ามแดน เพราะอยู่ในบ้านเกิดก็ไม่มีงานทำและมีปัญหาโควิดระบาดหนัก
แต่จุดที่พวกตนลักลอบข้ามมานั้นเต็มไปด้วยโคลนจากฝนตก ทำให้การเดินเท้ายากลำบากและทิ้งร่องรอยหลักฐานจนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ทัน
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมดที่ถูกจับกุมไปดำเนินคดีตามกฎหมายท่ามกลางมาตรการป้องกันโควิดอย่างเข้มงวด พร้อมวางกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สอดเพิ่มความเข้มงวดเฝ้าระวังในทุกพื้นที่จุดล่อแหลมชายแดนแม่สอดเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดนอำเภอแม่สอดอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง