เชียงราย - คู่หมอลำ-หางเครื่องพัทยา..เจอผลกระทบโควิดร้านปิดๆ เปิดๆ ตั้งแต่ระลอกแรกยาวจนถึงวันนี้ รายได้เดือนละหลักแสนเหลือเป็นศูนย์ ต้องกลับแม่สายร้องหมอลำขายส้มตำตั้งหลักรอ
ทั้งชาวแม่สาย-ผู้คนจากชุมชนใกล้/ไกลที่มีโอกาสเข้าไปใช้บริการร้านขายส้มตำ “หมอลำตำแหลก” ข้างโรงเรียนบ้านถ้ำ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต่างประทับใจกันทุกราย เพราะระหว่างนั่งรอส้มตำ หนุ่มเจ้าของร้านก็โชว์ลีลาร้องเพลงหมอลำพร้อมกับทำส้มตำไปด้วย ซึ่งจากลีลาและทำนองที่ไพเราะจึงทำให้เป็นที่สนใจของลูกค้าที่แวะเวียนมาถ้วนหน้า
นายสุพรรณ แป้งสุวรรณ อายุ 25 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้อาศัยอยู่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และได้มาอาศัยอยู่กับแฟนชื่อ นายฐิติวุฒิ ใจมูล ที่ อ.แม่สาย และร่วมกันเปิดเป็นร้านขายส้มตำ บอกว่าเดิมตนมีอาชีพเป็นนักร้องหมอลำอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา มีรายได้ไม่แน่นอน แต่ก็ทำให้สามารถเลี้ยงดูตัวเองและพ่อแม่ได้ หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 3,000 บาท ส่วนนายฐิติวุฒิมีอาชีพเต้นหรือหางเครื่องให้กับวงในร้านเดียวกัน ทำให้มีรายได้ร่วมกันดีมากเพราะมีแม่ยกคล้องพวงมาลัยให้เป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตโควิด-19 ทำให้ร้านปิดชั่วคราว ทำให้ทางร้านต้องปิดบริการ-ต้องหยุดงาน และสลับเปิด-ปิดหลายครั้ง กระทั่งปิดยาวมาตั้งแต่เดือน เม.ย. 64 เป็นต้นมา
เมื่อต้องตกงานไม่มีรายได้ก็คิดมากแทบนอนไม่หลับ เพราะต้องผ่อนจ่ายรถยนต์ ค่าเช่าห้อง ภาระต่างๆ จึงได้ชวนกันกลับมาอยู่บ้านที่แม่สาย เพื่อรอให้ร้านเปิดแต่ก็ไม่คิดว่าจะนานขนาดนี้ เงินที่เก็บสะสมก็เริ่มลดน้อยลง จากเดิมเราได้เงินวันละ 3,000-4,000 บาท บางครั้งเป็นหมื่น เดือนๆ เคยได้เป็นแสนกลับกลายเป็นศูนย์ แต่แม่ของแฟนให้สติว่าอย่าเครียดและลองหาอะไรทำดูจึงได้ชักชวนกันทำส้มตำขาย
นายสุพรรณกล่าวว่า หลังจากเปิดร้านส้มตำเป็นแนวรสชาติอีสานได้ประมาณ 1 สัปดาห์ก็เริ่มมีลูกค้า และจากการที่เคยร้องเพลงหมอลำจึงร้องไปด้วยตำไปด้วยทำให้ลูกค้าประทับใจ ซึ่งใครที่อยากลองชิมสามารถแวะเวียนไปได้ที่ร้านข้างโรงเรียนบ้านถ้ำ
นายสุพรรณกล่าวด้วยว่า อยากฝากไปถึงคนที่ได้รับผลกระทบเหมือนกันว่าเราอาจจะเครียดในช่วงแรกๆ เหมือนพวกตนที่เคยมีรายได้ไม่เดือดร้อน ทุกวันคืนเคยอยู่กับแสงสี แต่วันหนึ่งกลับมีรายได้วันละ 0 บาท ก็ต้องลองหาทำอย่างอื่นดู อย่างพวกตนเมื่อมาเปิดร้านขายส้มตำก็พอให้อยู่ได้ และทำให้ไม่ต้องเครียดกับการเสพข่าวโควิด-19 มากจนเกินไปเพื่อที่พวกเราจะได้ผ่านพ้นมันไปด้วยกัน