ศูนย์ข่าวศรีราชา - ส่อเค้ายุ่ง! โครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดพัทยา หลังกรมเจ้าท่าสั่งระงับแผนขยายแนวสันทนาการบนพื้นที่ชายหาดชั่วคราว ชี้ไม่มีการขออนุญาตเสี่ยงผิดกฎหมายล่วงลำล้ำน้ำ จี้เมืองพัทยา เสนอแบบคำร้องถึงส่วนกลางให้พิจารณาความคุ้มค่า ผลกระทบเสริมทราย
วันนี้ (25 ส.ค.) นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา เปิดเผยถึงโครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดพัทยาเหนือ-ใต้ ซึ่งเมืองพัทยาได้ว่าจ้างบริษัท นงนุชแลนด์ แอนด์ การ์เด้นดีไซน์ จำกัด ให้เข้าดำเนินงานภายใต้งบประมาณ 166 ล้านบาท
และหนึ่งในแผนงานปรับสภาพภูมิทัศน์ คือการขยายผิวจราจร รวมทั้งขยายแนวฟุตปาธ หรือลานสันทนาการบนพื้นที่ชายหาดรวมระยะทางประมาณ 5-6 เมตร ว่า อาจมีปัญหาด้านกฎหมายการล่วงล้ำลำน้ำ หลังกรมเจ้าท่า ได้ดำเนินการเสริมทรายไว้
นอกจากนั้น กรมเจ้าท่ายังจะต้องตรวจสอบอีกว่าการดำเนินโครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดพัทยาเหนือ-ใต้ ตลอดแนวระยะ 2.7 กม. มีส่วนใดที่ส่งผลกระทบต่อโครงการเสริมทรายของกรมเจ้าท่าอีกหรือไม่
"ก่อนหน้านี้ชายหาดเมืองพัทยา มีปัญหาเรื่องการกัดเซาะรุนแรงและมีนัยสำคัญที่จะทำให้เหลือพื้นที่ชายหาดเพียง 2-5 เมตร กรมเจ้าท่า จึงจัดทำแผนฟื้นฟูและบูรณะโดยได้จัดทำแผนแม่บทตั้งแต่ปี 2555 เพื่อเสนอของบประมาณ จำนวน 430 ล้านบาทจากส่วนกลาง จนสามารถเสริมทรายชายหาดขนาดกว้างกว่า 35 เมตรแล้วเสร็จในปี 2562"
ทั้งนี้ แม้โครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดเมืองพัทยา จะเป็นไปตามนโยบายการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดซึ่งอยู่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ที่จะต้องจัดทำแผนขยายการจราจรพื้นที่บริเวณชายหาด รวมทั้งขยายฟุตปาธ และปลูกต้นไม้ใหม่ทดแทนต้นไม้เดิม
นายเอกราช ยังเผยอีกว่า ในส่วนแผนจัดทำแนวกำแพงคันหินบนพื้นที่ชายหาดระยะ 5-6 เมตร จำนวน 3-4 จุด เพื่อทำพื้นที่สันทนาการตลอดแนวชายหาดนั้น ล่าสุด กรมเจ้าท่าได้ประชุมร่วมกับเมืองพัทยา ผู้รับจ้างและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วซึ่งพบว่าโครงการดังกล่าวยังไม่เคยมีการขออนุญาตจากกรมเจ้าท่า ซึ่งดูแลพื้นที่ชายหาด
และโครงการนี้ยังส่อว่าจะขัดกับกฎหมายการก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำตามประกาศของกระทรวงคมนาคม กรมเจ้าท่าจึงได้ขอความร่วมมือไปยังเมืองพัทยาและผู้รับจ้างให้ระงับการดำเนินงานในโครงการนี้เป็นการชั่วคราวก่อน
รวมทั้งขอให้เมืองพัทยา และผู้รับจ้างเร่งเสนอแบบโครงการ รวมทั้งการขออนุญาตในการใช้พื้นที่ชายหาดต่อกรมเจ้าท่า เป็นการเร่งด่วน เพื่อให้มีการพิจารณาถึงความเหมาะสมว่าโครงการมีความคุ้มค่าหรือไม่ ที่สำคัญจะส่งผลกระทบต่อโครงการเสริมทรายชายหาดอย่างไร
“แม้ว่าโครงการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา สู่การเป็นศูนย์กลางทางการลงทุนและการท่องเที่ยวของ EEC แต่ต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง และหลังจากที่เจ้าท่าพัทยา ได้รับรูปแบบโครงการ คำชี้แจงและคำร้องขออนุญาตแล้วจะนำเรื่องส่งไปยังกรมเจ้าท่าเพื่อพิจารณาตามหลักวิชาการต่อไป” ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา กล่าว