บุรีรัมย์ - ตร.บุกชาร์จหนุ่มบุรีรัมย์เมาเหล้าคลั่งอาละวาด ทุบทำลายข้าวของในบ้านพังเละ และขู่ทำร้ายคนในบ้าน ตร.เข้าระงับเจอขวานทุบรถตราโล่กระจกแตกบุบพังรอบคัน ตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ญาติยังผวาถูกอาฆาตเอาชีวิต
วันนี้ (21 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น. คืนที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุชายเมาสุราคลุ้มคลั่งอาละวาด ทำลายข้าวของในบ้าน ตบหน้าหลานและขู่ทำร้ายคนในบ้าน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านประดาจะบก ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นบ้านหลังเกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง พบนายคมสันต์ อายุ 30 ปี กำลังโวยวายอาละวาดทุบทำลายข้าวของอยู่ภายในบ้านพังเสียหาย กระจกหน้าต่างแตกกระจาย เจ้าหน้าที่จึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์ แต่นายคมสันต์ไม่ยอมหยุดทั้งยังถือมีดและขวานเข้ามาทุบรถตราโล่ของตำรวจสายตรวจอย่างบ้าคลั่งจนกระจกด้านหน้าแตก ด้านข้าง และด้านหลังเป็นรอยบุบ ทั้งยังขู่จะทำร้ายหากใครเข้าใกล้
เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงถอยออกมาก่อนเพราะนายคมสันต์ผู้ก่อเหตุมีอาวุธและอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง จากนั้นได้เรียกกำลังตำรวจชุดสืบสวน พร้อมประสานหน่วยกู้ภัยฯ รวมกว่า 10 นายเข้ามาสมทบเพื่อร่วมระงับเหตุ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ และหน่วยกู้ภัยฯ มาถึงบ้านหลังเกิดเหตุได้วางแผนร่วมกับเจ้าหน้าที่สายตรวจเพื่อเข้าชาร์จตัวนายคมสันต์ที่กำลังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งและมีอาวุธติดตัวด้วย ซึ่งตอนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางมาสมทบเพิ่ม นายคมสันต์ได้เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าที่รกทึบและมีอาวุธติดตัวด้วย จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนายใช้ความระมัดระวัง
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงสามารถชาร์จจับตัวนายคมสันต์ได้อย่างทุลักทุเลและเหนื่อยหอบกันเลยทีเดียว แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยช่วงที่เจ้าหน้าที่ชาร์จจับนายคมสันต์พยายามต่อสู้ขัดขืนและตะโกนด่านเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย เมื่อได้ตัวจึงนำไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ก่อนจะทำการสอบปากคำและดำเนินการตามกฎหมายฐานทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ส่วนญาติหากใครติดใจหรือถูกทำร้ายสามารถแจ้งความที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติเพิ่มเติมได้
สอบถาม นายฉลวย เบญจศิลป์ น้าของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ได้ยินเสียงนายคมสันต์ ซึ่งดื่มสุรามึนเมาอาละวาดคลุ้มคลั่ง และเมื่อไปดูก็เห็นข้าวของภายในบ้านพังเสียหายกระจัดกระจาย ทั้งยังตบหน้าหลานชายอายุ 11 ขวบ และขู่ทำร้ายคนในบ้านจนแม่ต้องไปแอบซุกในห้องเพราะกลัว จึงได้แจ้งตำรวจให้มาช่วยระงับเหตุ แต่หลานกลับคลั่งทุบรถตราโล่ตำรวจได้รับความเสียหาย
ล่าสุดวันนี้ (21 ส.ค.) ร.ต.อ.ชัยรัตน์ บุญชู รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้งเพื่อตรวจสอบสภาพความเสียหาย และสอบถามข้อมูลจากคนในครอบครัว ซึ่งพี่สาวที่เป็นเจ้าของบ้านยืนยันจะเอาเรื่องน้องชาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแนะนำให้สำรวจทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย แล้วเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ที่โรงพักอีกครั้ง เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามขั้นตอน
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายคมสันต์ 3 ข้อหา คือ “ทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการ, เมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ซึ่งรถตำรวจที่ได้รับความเสียหายอยู่ระหว่างส่งไปประเมินราคาค่าเสียหายอีกครั้ง
จากการตรวจปัสสาวะนายคมสันต์ไม่พบมีสารเสพติดในร่างกาย แต่เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าเมื่อหลายปีก่อนนายคมสันต์เคยถูกจับส่งบำบัดฐานเสพสารเสพติด ทั้งนี้ จากการสอบถามนายคมสันต์เมื่อเช้าก็มีอาการสงบลงพูดคุยรู้เรื่อง อ้างว่าที่ทำลายข้าวของเป็นเพราะเมาควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ประกอบกับถูกพี่สาวบ่นและต่อว่าจึงเกิดความโมโห หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวนายคมสันต์ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดนางรองแล้ว
ขณะที่พี่สาว และคนในครอบครัวต่างก็กลัวจะไม่ปลอดภัยหากนายคมสันต์ได้รับการปล่อยตัวหรือพ้นโทษออกมา เพราะนายคมสันต์ได้ขู่อาฆาตจะเอาชีวิตคนในครอบครัวเอาไว้