xs
xsm
sm
md
lg

จับแล้ว! หนุ่มใช้เฟซบุ๊กไม่ตรงปกลวงสาวมาชำเรา อ้างฝ่ายหญิงสมยอม ตร.แจงไม่รับแจ้งความเป็นเรื่องเข้าใจผิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศรีสะเกษ - จับแล้วหนุ่ม อ.เบญจลักษ์ ศรีสะเกษใช้เฟซบุ๊ก “อสูร กาย” รูปไม่ตรงปก ลวงสาวบุรีรัมย์มาข่มขืนกระทำชำเรา แต่ยังปากแข็งอ้างฝ่ายหญิงสมยอม ตรวจฉี่พบสีม่วง เบื้องต้นโดนข้อหาเสพยาบ้า ส่วนข้อหาข่มขืนรอสอบปากคำสาวผู้เสียหาย แจงกรณีเป็นข่าวตำรวจไม่รับแจ้งความเป็นเรื่องเข้าใจผิด

วันนี้ (20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.สิราวิชญ์ นวมดี ผกก.สภ.เบญจลักษ์ ได้นำตัว นายณัฐพล เผื่อแผ่ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 397 หมู่ 2 บ้านไผ่หนองแคน ต.หนองฮาง อ.เบญจลักษ์ มาทำการสอบสวน เนื่องจากนายณัฐพลถูกหญิงสาวอายุ 32 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ร้องทุกข์กล่าวหาว่าใช้โปรไฟล์เฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “อสูร กาย” ล่อลวงจาก จ.ระยอง ที่ทำงานอยู่ให้เดินทางมาพบที่ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยนายณัฐพลได้ใช้โปรไฟล์เป็นหนุ่มรูปหล่ออ้างว่าจะสู่ขอแต่งงานด้วย ซึ่งหญิงสาวได้แจ้งว่าหากรูปภาพไม่ตรงปกถือว่าจบกัน แต่ว่าเมื่อมาถึงกลับถูกนายณัฐพลบังคับให้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เดินทางไปยังบ้านของนายณัฐพลที่บ้านไผ่หนองแคน และถูกบังคับข่มขืนกระทำชำเรา 2 ครั้ง

นายณัฐพล  เผื่อแผ่ ผู้ต้องหา
พ.ต.อ.สิราวิชญ์ นวมดี ผกก.สภ.เบญจลักษ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เบญจลักษ์ นำโดย พ.ต.ท.สราวุธ เพียงตา สว.สส. พร้อมด้วย ร.ต.ท.สุนัน สะอาด ร.ต.ท.พินิจ อัมภรัตน์ ร.ต.ต.สมหมาย กล้าหาญ ร.ต.ต.เอี่ยมศักดิ์ ตงแก้ว ด.ต.บรรจะ หาญเตชะ ด.ต.จำเนียม พื้นพรม ไปทำการจับกุมตัว นายณัฐพล เผื่อแผ่ ที่บ้านเลขที่ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งพบว่านายณัฐพลได้แอบเข้าไปหลบซ่อนในตู้เสื้อผ้าภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงเข้าไปค้นหาและทำการจับกุมตัวได้

จากการตรวจค้นในบ้านพบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง กระเป๋าเสื้อผ้า จำนวน 2 ใบ บัตรประจำตัวประชาชนและเอกสารต่างๆ ของหญิงสาวชาวบุรีรัมย์ จึงได้นำของกลางทั้งหมดและควบคุมตัวนายณัฐพลมาที่ สภ.เบญจลักษ์ ซึ่งจากการตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วง จึงได้ทำการควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ซึ่งนายณัฐพลได้ให้การรับสารภาพ

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายณัฐพลให้การว่าได้เสพยาบ้าจำนวน 1 เม็ดเมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าล่อลวงหญิงสาวชาวบุรีรัมย์โดยใช้สื่อโซเชียลเฟซบุ๊กมีรูปภาพปกเป็นชายรูปหล่อให้มาพบที่ อ.เบญจลักษ์นั้น นายณัฐพลให้การว่าได้กระทำจริง แต่ว่าเมื่อหญิงสาวชาวบุรีรัมย์มาพบเมื่อช่วงเวลาประมาณ 00.00 น.ของคืนวันที่ 12 ส.ค. 64 และเมื่อหญิงสาวเห็นว่าใบหน้าของนายณัฐพลไม่ตรงกับปกในเฟซบุ๊กหญิงสาวจะเดินทางกลับไปบ้านที่ จ.บุรีรัมย์ แต่นายณัฐพลบอกว่าเนื่องจากเป็นเวลาดึกมากแล้วจึงได้ให้หญิงสาวไปพักที่บ้านของนายณัฐพลก่อน และได้ใช้กำลังข่มขืนหญิงสาวชาวบุรีรัมย์จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกในวันที่ 12 ส.ค. 64 ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. และครั้งที่ 2 ในวันที่ 13 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 12.00 น.

จนกระทั่งหญิงสาวได้โทร.แจ้งตำรวจทราบและได้ไปรับตัวหญิงสาวออกมาจากบ้านของนายณัฐพล จากนั้นได้เดินทางกลับไปบ้านที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โดยไม่ได้นำเอาโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเสื้อผ้า รวมทั้งเงินสดจำนวน 4,400 บาทติดตัวไปด้วย เนื่องจากหวาดกลัวว่านายณัฐพลจะทำร้าย


พ.ต.อ.สิราวิชญ์ นวมดี ผกก.สภ.เบญจลักษ์ กล่าวต่อว่า คดีนี้ตนได้ประสานงานกับหญิงสาวชาวบุรีรัมย์ผู้เสียหายแล้วเพื่อจะได้ทำการสอบปากคำดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เบญจลักษ์เดินทางไปสอบปากคำผู้เสียหายที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ หากผลการสอบสวนผู้เสียหายยืนยันว่าถูกนายณัฐพลบังคับข่มขืนใจจริง จะตั้งข้อหานายณัฐพลเพิ่มข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตนเอง ซึ่งเรื่องนี้ตนได้รายงานให้ พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ รับทราบแล้ว

ทางด้าน นายณัฐพล เผื่อแผ่ ผู้ต้องหารายนี้ กล่าวว่า ช่วงเวลาที่หญิงสาวชาวบุรีรัมย์เดินทางมาถึง อ.เบญจลักษ์เป็นช่วงเวลาประมาณ 00.00 น.ของวันที่ 12 ส.ค. 64 โดยหญิงสาวเมื่อพบกับตนแล้วเห็นว่าใบหน้าไม่ตรงกับปกเฟซบุ๊กก็จะเดินทางกลับไป แต่ตนเห็นว่าดึกแล้วจึงขอให้หญิงสาวไปพักที่บ้านของตนก่อนเพื่อความปลอดภัย พอรุ่งเช้าจึงจะให้เดินทางกลับไปบ้านที่ จ.บุรีรัมย์ โดยตนได้ร่วมเพศกับหญิงสาวชาวบุรีรัมย์จำนวน 2 ครั้งจริง แต่ว่าไม่ได้ข่มขืน เนื่องจากว่าตนได้ขอร่วมเพศด้วยและฝ่ายหญิงสมยอมเอง อีกทั้งไม่ได้ใช้ปืนหรืออาวุธใดๆ ข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัวเพื่อทำการข่มขืนแต่อย่างใด ส่วนทรัพย์สินของหญิงสาวชาวบุรีรัมย์นั้นตนเก็บเอาไว้ โดยมีเงินสด จำนวน 330 บาท ซึ่งตนได้ใช้จ่ายร่วมกับหญิงสาวไปหมดแล้ว


ทางด้าน พ.ต.ท.กริซเพชร ทองแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.เบญจลักษ์ กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่าในวันเวลาที่เกิดเหตุพนักงานสอบสวนไม่รับแจ้งความนั้น เรื่องนี้เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. ตนมารับเวรเวลา 08.00 น. และได้พบหญิงสาวผู้เสียหายนั่งอยู่ที่ สภ.เบญจลักษ์ และได้สอบถามว่ามาติดต่ออะไร ซึ่งหญิงสาวชาวบุรีรัมย์ได้แจ้งให้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ตนจึงได้สอบถามว่าแจ้งความหรือยัง หญิงสาวตอบว่าแจ้งแล้ว และบอกว่าจะเดินทางกลับไปบ้านที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ด้วยความสงสารตนจึงได้ให้แฟนของตนขับรถพาหญิงสาวไปส่งที่ บขส.อ.กันทรลักษ์ และแฟนของตนยังได้ให้เงินหญิงสาวผู้เสียหายจำนวน 500 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าเดินทางอีกด้วย

การที่บอกว่าไม่รับแจ้งความนั้นเป็นความเข้าใจผิดของหญิงสาวเองที่เข้าใจว่าการที่แจ้งตำรวจให้ไปรับตัวออกมานั้นเป็นการแจ้งความแล้ว ซึ่งหากว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีก็จะต้องมีการสอบปากคำลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งตนจะได้ดำเนินคดีนี้ตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น