xs
xsm
sm
md
lg

สุดสะเทือนใจ! พ่อตาบอดวัย 70 ผูกคอดับ เครียดลูกสาวหนีหนี้รายวัน แก๊งเงินกู้ยังบุกทวงถึงงานศพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - สุดสะเทือนใจ พ่อตาบอดวัย 70 ชาว อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เครียดลูกสาวถูกตามทวงหนี้รายวันพิษโควิดหาจ่ายไม่ทัน ต้องคอยหลบซ่อนหลายครั้งพ่อแม่ออกรับหน้าและหาใช้แทน แต่ลูกกู้หลายเจ้าช่วยจ่ายไม่ไหวเครียดผูกคอดับใต้ต้นไม้หลังบ้าน แก๊งทวงหนี้ไม่สนตามทวงถึงงานศพ

วันนี้ (9 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุสลด นายปรีดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี ซึ่งพิการตาบอด ได้ใช้ผ้าผูกคอตัวเองกับต้นขนุนหลังบ้านใน ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้ามืดวานนี้ (8 ส.ค.) และช่วงบ่ายวันนี้ (9 ส.ค.) ญาติได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพที่วัดในหมู่บ้าน ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว เนื่องจากนายปรีดีเป็นผู้พิการตาบอดไม่นึกว่าจะคิดสั้นแบบนี้


จากการสอบถาม นางสมภาร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ซึ่งยังอยู่ในอาการเศร้าเสียใจ เล่าให้ฟังว่า ก่อนสามีจะผูกคอเสียชีวิต สามีบอกว่ามีคนมาทวงหนี้รายวันที่ลูกสาวไปกู้ยืมมา แต่ไม่รู้ว่ายอดเงินทั้งหมดเท่าไหร่เพราะลูกสาวไม่เคยเล่าให้ฟัง รู้แค่ว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยรายวันเจ้าละ 200-300 บาทต่อวัน ซึ่งวันหนึ่งก็จะมีคนเข้ามาทวง 3-4 ราย ที่ผ่านมาเห็นลูกสาวจ่ายประจำ แต่พอเจอพิษโควิด-19 ระบาดลูกสาวซึ่งมีอาชีพขายผักที่ตลาดก็ขายไม่ค่อยได้จึงไม่มีเงินจ่ายให้แก๊งเงินกู้มาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ลูกสาวจะแอบไปหลบตามสถานที่ต่างๆ เพราะไม่มีเงินจ่ายให้คนที่มาทวง ทำให้แก๊งทวงหนี้หันมาทวงถามพ่อแม่ที่บ้านแทน

ด้วยความสงสารหากวันไหนตนมีเงินก็จะจ่ายแทนให้ แต่หลายครั้งมาเจอสามี ซึ่งพิการตาบอดอยู่ที่บ้านคนเดียว ก็จะกดดันบังคับให้ผู้ตายไปหาเงินมาจ่ายแทนลูกสาว ซึ่งผู้ตายพยายามบอกว่าตัวเองตาบอดไม่ได้ทำงานไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายแทน ซึ่งแต่ละวันจะมีแก๊งเงินกู้มาทวงถามแบบนี้หลายราย อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้สามีเกิดอาการเครียดจึงตัดสินใจจบชีวิตด้วยการผูกคอตาย ส่วนตัวยอมรับว่าโกรธที่ลูกไปกู้ยืมเงินแล้วหาจ่ายไม่ทันจนทำให้พ่อคิดสั้น แต่อีกใจก็สงสารเพราะอย่างไรก็เป็นลูก จะได้พูดคุยหาทางออกช่วยกัน


น.ส.พยุง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพขายผักสดในตลาดลำปลายมาศ ก็พอมีรายได้เลี้ยงครอบครัวและจ่ายหนี้รายวันที่ไปกู้ยืมมา แต่พอประสบปัญหาโควิดระบาดทำให้ขายของไม่ได้หมุนเงินไม่ทัน เพื่อนจึงชักชวนให้กู้เงินรายวันเพื่อนำมาหมุนก็ใช้วิธีค้ำกันไปมา ครั้งแรกกู้มา 6,000 บาท ส่งวันละ 300 บาท จำนวน 24 วัน ตอนแรกก็จ่ายตลอด แต่ระยะหลังเริ่มหมุนไม่ทัน ก็ไปกู้เจ้าอื่นมาจ่ายให้อีกเจ้า จนกลายเป็นหนี้รัดตัวไปเรื่อยและหาจ่ายไม่ทัน เพราะปัจจุบันมีหนี้อยู่ 6 เจ้า ต้องหาจ่ายให้ได้เฉลี่ยวันละ 2,000 บาท

พอหาจ่ายไม่ได้จึงพยายามหลบหน้าไม่ให้กลุ่มทวงหนี้เห็น ทำให้แก๊งทวงหนี้หันไปตามทวงจากพ่อแม่ที่บ้านแทน จนเป็นสาเหตุทำให้พ่อเครียดและผูกคอเสียชีวิต ก็เสียใจและรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุต้องทำให้พ่อเสียชีวิต และตอนนำศพพ่อไปตั้งสวดที่วัดก็มีแก๊งทวงหนี้ 2 เจ้าขับรถมาตามทวงถึงที่งานศพด้วย หลังจากเสร็จงานศพพ่อก็จะปรึกษากับแม่เพื่อหาเงินไปจ่ายหนี้ที่เหลือเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก เพราะส่วนตัวก็กลัวแก๊งทวงหนี้มาบุกทำร้ายเหมือนกัน


ขณะที่ นายบุญทัน สมใส ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า หลังได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านว่าคุณตาปรีดี ซึ่งเป็นลูกบ้านผูกคอเสียชีวิตก็ตกใจ เพราะก่อนเกิดเหตุยังขับรถผ่านและตะโกนทักทายผู้ตายอยู่ ซึ่งตอนแรกไม่รู้สาเหตุที่ทำให้คุณตาคิดสั้น กระทั่งได้สอบถามภรรยาของผู้ตายจึงทราบว่ามีเจ้าหนี้มาทวงเงินรายวันที่ลูกสาวไปกู้ยืมมาแล้วหาจ่ายไม่ทัน จนทำให้คุณตาเกิดความเครียด ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าลูกสาวผู้ตายไปเป็นหนี้ใครบ้างแต่เคยเห็นมีทั้งรถเก๋ง และ จยย.มาถามหาที่บ้านบ่อยครั้ง ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรถึงได้ยืมเงินรายวันหลายเจ้าจนหมุนไม่ทัน และที่ผ่านมาลูกสาวผู้ตายก็เคยยืมเงินกองทุนหมู่บ้านจำนวน 10,000 บาท ซึ่งผ่านมาประมาณ 1 ปีก็ยังไม่มีการใช้หนี้ ตนเคยถามลูกสาวผู้ตายว่านำเงินไปใช้อะไรเยอะแยะ ติดการพนันหรือไม่แต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้เล่นพนัน แต่ไปยืมเงินรายวันมาใช้จ่ายแล้วหมุนไม่ทัน






กำลังโหลดความคิดเห็น