นครสวรรค์ - ตำรวจหิ้วเขยโหดยิงเมีย-พ่อตาดับ แม่ยายบาดเจ็บสาหัส ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พบเรื่องเศร้าซ้ำ ลูกสาวติดโควิดอยู่สระบุรีกลับมากราบศพแม่ไม่ได้ ฝากถามพ่อทำไมต้องยิง
วันนี้(31 ก.ค.64) พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ สารวัตรใหญ่ สภ.ตะคร้อ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ควบคุมตัวนายจันทะวงษ์ แก้วคำ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังบ้านเลขที่ 177 หมู่ 2 บ้านวังกระโดนน้อย ต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์
หลังก่อเหตุยิงนางมานพ แก้วคำ อายุ 47 ปี ภรรยา-นายทวย พุทธรักษา พ่อตา เสียชีวิต 2 ศพ และยิง นางนิด พุทธรักษา อายุ 68 ปี แม่ยาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา แล้วหลบหนี ก่อนจะให้ญาติติดต่อมอบตัวกับเจ้าหน้าที่เมื่อวานนี้(30 ก.ค.)
จุดแรกของการทำแผน เป็นจุดที่นายจันทะวงษ์ ใช้อาวุธปืนขนาด .32 ยิงนางมานพ แก้วคำ ภรรยาเสียชีวิตบริเวณชั้นล่างของบ้าน ซึ่งนายจันทะวงษ์แยกกับภรรยาอยู่ชั้นบนของบ้านหลังดังกล่าว โดยนายจันทะวงษ์นั่งดื่มเหล้าอยู่ชั้นสองของบ้าน ขณะที่นางมานพนั่งหวีผมให้หลานสาวอยู่ชั้นล่าง จู่ๆนายจันทะวงษ์ก็เดินลงมาใช้ปืนยิงเข้าที่ศรีษะนางมานพภรรยาเสียชีวิตทันที
จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายจันทะวงษ์ไปทำแผนจุดที่สอง ภายในบ้านเลขที่ 174/2 บ้านพ่อตา- แม่ยาย ที่อยู่ในรั้วติดกัน ผู้ต้องหาชี้จุดบริเวณบันไดบ้านจุดที่ใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงนายทวย พุทธรักษา พ่อตาเสียชีวิตคาบันไดบ้าน จุดสุดท้ายไปบนชั้นสองของบ้านหลังเดียวกันใช้อาวุธปืนยิงนางนิด พุทธรักษา แม่ยายได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะเดินลงจากบ้านทางบันไดหลังบ้าน เพื่อขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟหลบหนีไป
ซึ่งในขณะทำแผนนั้น มีชาวบ้านที่ทราบข่าวมารอดูเป็นจำนวนมาก และระหว่างตำรวจคุมตัวนายจันทะวงษ์ไปทำแผนยังจุดต่างๆ น้องสาวนางมานพผู้ตาย ได้ปรี่เข้าไปถามนายจันทะวงษ์ว่ายิงพี่สาวทำไม ทั้งที่รักพี่สาวตนมาก ยิงทำไม แต่นายจันทะวงษ์ไม่ตอบ มีสีหน้าเรียบเฉยก่อนเดินจากไป
ด้าน พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ วิริยะเขษม สารวัตรใหญ่ สภ.ตะคร้อ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปฝากขังเป็นครั้งแรก ก่อนจะขอตัวมาสอบสวนเพิ่มและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือทำเอง ส่วนสาเหตุก็เกิดจากประเด็นหึงหวง และปัญหาครอบครัว
ขณะที่อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุยังไม่พบ เนื่องจากผู้ต้องหาอ้างว่าขณะหลบหนีได้โยนปืนทิ้งข้างทาง ไม่สามารถจำได้ว่าโยนทิ้งบริเวณไหนยังหาไม่เจอ ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานคงใช้ระยะเวลาไม่นานนักขอตัวมาผลักเดียวคงสรุปสำนวนการสอบสวนส่งฟ้องได้ไม่ช้านี้แน่นอน เพราะว่าคดีนี้ไม่ซับซ้อนอะไรมากนักเพราะผู้ต้องหารับสารภาพ
น้องสาวนางมานพ ผู้ตาย กล่าวว่า ขณะนี้ศพของพี่สาวและพ่อ ตั้งอยู่ที่วัดวังกะโดนน้อย และจะเผาศพพี่สาวในวันพรุ่งนี้ก่อน ส่วนศพพ่อจะเผาในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งทุกคนเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะว่าที่ผ่านมานั้นพี่สาวเคยมาปรึกษาเรื่องครอบครัวตลอด มาปรึกษาว่าเบื่อสามีที่ชอบใช้ความรุนแรง อยากหนีไปแต่ทำไม่ได้เพราะห่วงหลาน ห่วงพ่อแม่ และไม่มีที่จะไปด้วย เนื่องจากบ้านที่อยู่ก็เป็นบ้านชื่อของพี่สาว
โดยวันเกิดเหตุพี่สาวและตนก็นั่งคุยกันที่บ้าน นายจันทะวงษ์ก็พยายามโทรมาเป็นสิบๆ สาย แต่พี่สาวไม่รับเพราะรู้ว่านายจันทะวงษ์จะมาหาเรื่อง และเมื่อพี่สาวกลับมาบ้านก็อาบน้ำให้หลานสาว โดยในระหว่างที่กำลังแต่งตัวและหวีผมให้หลานอยู่บ้าน นายจันทะวงษ์นั่งดื่มเบียร์อยู่ข้างบน จู่ๆ ก็เดินลงมาแล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงพี่สาวจนเสียชีวิตทันที ก็อยากถามว่ายิงพี่สาวตนทำไม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุสะเทือนดังกล่าวนี้ ยังเกิดเรื่องน่าเศร้าซ้ำซ้อนขึ้นด้วย เนื่องจากลูกสาวนางมานพผู้ตาย ซึ่งทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ขณะนี้ติดโรคโควิด-19 ไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานศพแม่ได้ ซึ่งลูกสาวกล่าวผ่านน้าสาวว่า อยากเดินทางกลับมาบ้านมากเพื่อมากราบศพแม่ และอยากมาถามต่อหน้าพ่อว่ายิงแม่ทำไม