บุรีรัมย์ - ตัวแทนเกษตรกร 2 อำเภอที่บุรีรัมย์สุดทนหอบหลักฐานแจ้งความเอาผิด “เจ๊แมว” นายหน้าซื้อขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เบี้ยวไม่จ่ายเงินค่าผลผลิตตามที่ตกลงสูญเงินเกือบ 3 ล้าน ชี้เป็นบุคคลอันตรายหลอกลวงมาหลายท้องที่ คาดเสียหายกว่า 50 ล้าน พร้อมลงขันตั้งรางวัลคนชี้เบาะแส 1 หมื่น
วันนี้ (9 ส.ค.) ตัวแทนเกษตรกรบ้านปลื้ม ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ และเกษตรกรใน ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ กว่า 20 ราย ได้ทยอยนำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.ปะคำ ให้เอาผิด “เจ๊แมว” ชาว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นนายหน้าติดต่อซื้อขายรวบรวมผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ส่งให้แก่บริษัท แต่พอรวบรวมผลผลิตส่งบริษัทแล้วกลับเบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงินให้เกษตรกรเฉลี่ยรายละตั้งแต่ 30,000-400,000 บาท รวมเป็นเงินที่ถูกโกงเกือบ 3 ล้านบาท บางรายถูกเบี้ยวตั้งแต่ปี 2563 จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับเงิน พอสอบถามก็บ่ายเบี่ยงอ้างโน่นอ้างนี่ตลอด จนล่าสุดหายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้ สร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่จะกู้เงินทั้งในและนอกระบบมาลงทุนปลูกข้าวโพดเพราะหวังจะมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว แต่สุดท้ายกลับถูกโกงทำให้ไม่มีเงินไปใช้หนี้ที่กู้ยืมมาลงทุน
จึงได้พากันนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ช่วยติดตามตัว “เจ๊แมว” นายหน้าคนดังกล่าวมาชี้แจงข้อเท็จจริงและเจรจาจ่ายเงินค่าผลผลิตข้าวโพดที่เบี้ยวมาคืน แต่หากไม่ยอมจ่ายก็ให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ตัวแทนเกษตรกรที่มาแจ้งความยังได้ลงขันกันตั้งรางวัลจำนวน 5,000 ให้แก่ผู้ที่แจ้งเบะแสของ “เจ๊แมว” ให้ทราบ และหากนำไปสู่การติดตามตัวได้จะเพิ่มเงินรางวัลให้อีก 5,000 บาท รวมเป็น 10,000 บาทด้วย
นายอัครวัฒน์ กิตติพงษ์ภากรณ์ ตัวแทนเกษตรกร อ.ปะคำ กล่าวว่า วันนี้ตัวแทนเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากการขายข้าวโพดแล้วถูกโกงไม่ได้เงินค่าข้าวโพด จึงได้พากันมาแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่รับซื้อข้าวโพดแล้วไม่จ่ายเงิน ซึ่งคาดว่าน่าจะยังอยู่ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.นครราชสีมา อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวมาเจรจาพูดคุยและจ่ายเงินให้เกษตรกรที่ขายผลผลิตไปแล้วแต่ยังไม่ได้เงิน แต่หากไม่ยอมจ่ายก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ เกษตรกรยังได้ลงขันกันตั้งรางวัลให้สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสของเจ๊แมวจำนวน 5,000 บาท และหากนำไปสู่การติดตามตัวเจ๊แมวได้ก็จะให้เงินรางวัลเพิ่มเป็น 10,000 บาท เพราะตอนนี้เกษตรกรเดือดร้อนมาก
ขณะที่ นายสวาท จำปาสาสว่างวงศ์ ตัวแทนเกษตรกร อ.โนนสุวรรณ กล่าวว่า เกษตรกรที่มาแจ้งความวันนี้เพราะมีความทุกข์และได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่กู้ยืมเงินมาลงทุนเพื่อหวังจะได้เงินจากการขายผลผลิตไปเลี้ยงครอบครัว ซ้ำยังไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ และจากข้อมูลยังพบว่า “เจ๊แมว” ยังไปหลอกลวงเกษตรกรลักษณะคล้ายกันในหลายพื้นที่จังหวัดซึ่งคาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้าน ซึ่งเกษตรกรผู้เสียหายหลายคนได้รวบรวมเอกสารหลักฐานฟ้องร้องอยู่ในกระบวนการศาลก็มี ซึ่งเจ๊แมวอาจจะหลบเลี่ยงกฎหมายได้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าบาปกรรมมีจริง หากยังมีสำนึกหรือคุณธรรมบ้างก็อยากให้มาจ่ายเงินค่าผลผลิตให้เกษตรกรด้วยเพราะตอนนี้เดือดร้อนมาก ก็อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือเกษตรกรผู้เสียหายด้วย
