เชียงใหม่ - ผอ.สำนักงานเจ้าท่าเชียงใหม่นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบทันทีกรณีชาวบ้านโวยพบมีคนนำเจ็ตสกีซิ่งแข่งขันความเร็วในแม่น้ำปิงส่งเสียงดังก่อความเดือดร้อนรำคาญและกระทบวิถีชีวิตคนหาปลา เบื้องต้นชี้มีความผิดขอเวลาเช็กข้อมูลหาท่าน้ำที่เป็นจุดลงและใบอนุญาตจดทะเบียนก่อนดำเนินการตามกฎหมาย ด้านชาวบ้านวอนตัดไฟต้นลมเพราะหวั่นเกิดพฤติกรรมเลียนแบบแห่กันมาทำเดือดร้อน
ความคืบหน้ากรณีชาวบ้านที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ริมแม่น้ำปิงช่วงผ่านตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากการที่มีผู้นำเจ็ตสกีลงไปขับขี่แข่งกันไปมาในแม่น้ำปิงด้วยความเร็ว ทั้งส่งเสียงดังรบกวนและทำให้เกิดคลื่นกระทบฝั่งกระทบวิถีชีวิตริมฝั่งที่มีชาวบ้านหาปลานำไปกิน ซึ่งเหตุเกิดขึ้นช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีลักษณะที่มีผู้ขับขี่เจ็ตสกีสองลำขับขี่อย่างรวดเร็วส่งเสียงดังและเหมือนกับการเร่งเครื่องแข่งกันไม่สนใจว่าจะส่งเสียงรบกวนชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำปิง รวมทั้งชาวบ้านที่หาปลาริมตลิ่งทั้งที่ตกปลาและใช้เรือเล็กหาปลาอยู่ เนื่องจากช่วงที่มีการใช้ความเร็วก็จะเกิดคลื่นแรงกระแทกเข้ากระทบสองฝั่งแม่น้ำปิง
วันนี้ (9 ส.ค. 64) สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงใหม่ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยเบื้องต้น นายพงษ์ธร ชำนิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้มีความผิดเพราะส่งเสียงดังสร้างความรำคาญให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบใบอนุญาตการจดทะเบียนเจ็ตสกีของจังหวัดเชียงใหม่มีเพียง 1 ลำเมื่อปี 2563 และในปี 2564 นี้ ในจังหวัดเชียงใหม่มีการขอต่อทะเบียนเจ็ตสกีเพียง 2 ลำ ซึ่งนำมาจากพื้นที่อื่นและขอต่อทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบท่าเรือบริเวณริมน้ำปิงหาจุดที่เจ็ตสกีสองลำนี้ลงแม่น้ำปิงและติดตามตัวคนขับต่อไป
ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงใหม่บอกอีกว่า ปกติแล้วเรือท่องเที่ยวหรือเรือของชาวบ้านในพื้นที่สามารถใช้เส้นทางแม่น้ำปิงสัญจรได้ตามปกติแต่ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น แต่ อย่างไรก็ตาม กรณีเจ็ตสกีสองลำที่ขับขี่เร่งความเร็วแข่งกันในแม่น้ำปิงที่จังหวัดเชียงใหม่นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหากใครพบเห็นเหตุการณ์ลักษณะนี้สามารถแจ้งตำรวจได้ทันที ส่วนเรือที่สามารถนำมาใช้งานในแม่น้ำปิงจะต้องเป็นเรือที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ขับขี่ก็จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่อย่างถูกต้องจึงจะสามารถนำเรือมาใช้งานได้ในแม่น้ำปิง แต่จะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำปิงเช่นกัน สำหรับเรือพายหรือเรือในกิจกรรมทางสันทนาการหรือสำหรับการกีฬาที่ไม่มีเครื่องยนต์ก็สามารถใช้งานได้เป็นปกติอยู่แล้ว แต่หากต้องมีการทำกิจกรรมในลำน้ำเช่นการจัดการแข่งขันต่างๆ ก็จะต้องมีการขออนุญาตต่อเจ้าท่าก่อนจึงจะทำกิจกรรมได้
ด้านชาวบ้านริมแม่น้ำปิงตรงจุดเกิดเหตุเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาไม่เคยพบการนำเจ็ตสกีมาขับขี่ในแม่น้ำปิงมาก่อน จะมีก็เพียงเรือหาปลาขนาดเล็กของชาวบ้านและเรือพายออกกำลังกายบ้าง ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็จะมีเรือนำเที่ยวของเอกชนบ้าง แต่ในช่วงโควิด-19 ไม่มีนักท่องเที่ยวก็แทบจะไม่มีเรือนำเที่ยวผ่านไปมาเลย ส่วนเจ็ตสกีสองลำนี้เพิ่งพบเห็นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งหากขับขี่ปกติไม่เร่งเครื่องใช้ความเร็วชาวบ้านก็ไม่เดือดร้อนอะไร แต่ที่พบก็คือทั้งสองลำต่างเร่งเครื่องเสียงดังและขี่แข่งกันด้วยความเร็วทำให้เกิดคลื่นน้ำซัดกระแทกริมตลิ่ง ทั้งนี้เป็นห่วงด้วยว่าหากปล่อยไปอย่างนี้จะทำให้หลายคนเข้าใจว่าสามารถทำอย่างนี้ได้และนำมาขี่กันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะยิ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านทั้งที่อยู่อาศัยและหากินจากการจับปลา รวมทั้งตลิ่งถูกคลื่นที่กระแทกกัดเซาะมากขึ้นกระทบระบบนิเวศด้วย
