เชียงราย - นอภ.แม่สายสั่ง อบต.เร่งแก้ไขด่วน..ฝนตกหนักต่อเนื่อง “น้ำสาย” ทะลักเชี่ยวกรากพุ่งซัดตลิ่งฝั่งไทยทรุดหายไปกับสายน้ำยาวนับ 100 เมตร เสี่ยงกระทบเขตแดนระหว่างประเทศ
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวันทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำสาย พรมแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ไหลทะลักและเชี่ยวกราก กัดเซาะตลิ่งพื้นที่หมู่บ้านป่าซางงาม หมู่ 6 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย พังทลายลงเป็นระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร
เบื้องต้นกระแสน้ำได้ซัดเอาตลิ่งที่เป็นดินทรุดลงลึกประมาณ 1-2 เมตร และบางจุดลึกเข้ามาในเขตไทยกว่า 4 เมตร โดยเฉพาะจุดที่ลำน้ำสายโค้งเป็นตัวยู ซึ่งทำให้กระแสน้ำพุ่งเข้าตลิ่งฝั่งไทยโดยตรง จนตลิ่งหลายจุด รวมถึงทางเดินเท้าที่ชาวบ้านใช้เป็นถนนสัญจรเลียบชายแดนกว้างประมาณ 4 เมตร ถูกน้ำซัดจนเกือบหายไปทั้งแถบและไม่มีคนกล้าใช้สัญจรเพราะเกรงดินจะทรุดลงอีก
ล่าสุด นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย ได้เข้าสำรวจพื้นที่ก่อนทำหนังสือด่วนที่สุดถึงองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะช้าง ระบุว่ากรณีตลิ่งริมลำน้ำสายพังทลายดังกล่าวทำให้ถนนได้รับความเสียหายและอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้เส้นทาง รวมถึงทำให้เกิดการสูญเสียพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเส้นเขตแดนระหว่างประเทศ ดังนั้นจึงขอให้ อบต.เกาะช้างดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 เพื่อแก้ไขปัญหาการพังทลายดังกล่าวอย่างเร่งด่วนและให้รายงานอำเภอฯ รับทราบด้วย
ขณะที่นายทองสุข ใจพิภักดิ์ นายก อบต.เกาะช้าง อำเภอแม่สาย พร้อมผู้นำชุมชนได้ร่วมกันออกสำรวจความเสียหาย เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่จัดทำพนังกั้นน้ำไม่ให้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวที่มีอยู่ชั้นในประมาณ 1,200 ไร่ เนื่องจากพบว่ากระแสน้ำได้พัดเอาพนังกั้นน้ำริมตลิ่งเขตหมู่บ้านป่าซางงามจนพังเสียหาย จากนั้นได้ให้กองช่างสำรวจและออกแบบอย่างละเอียดเพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและออกแบบโครงสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวต่อไป
