MGR Online - นครบาลออกหนังสือเตือน เพนกวิน และทนายอานนท์ นำมวลชนชุมนุมหน้าหอศิลป์ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ-พ.ร.บ.โรคติดต่อ และอื่นๆ ดำเนินคดีแล้ว 11 ราย คาร์ม็อบกรุงเทพฯ และปริมณฑล
วันนี้ (3 ส.ค.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ออกหนังสือกรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมทางการเมือง ในวันที่ 3 ส.ค. ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ นายอานนท์ นำภา หรือทนายอานนท์ ที่หน้าหอศิลป์แยกปทุมวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 น.นั้น
ขอเตือนว่า การกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค มีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน ในพื้นที่ที่มีประกาศ หรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.จราจรทางบก, พ.ร.บ.ความสะอาดฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตาม มาตรา 215 ให้เลิกไป ผู้ใดไม่เลิก และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับกรณีการชุมนุมคาร์ม็อบ เมื่อวันที่ 31 ก.ค.และ 1 ส.ค. ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งกรุงเทพและปริมลฑล ขับรถเกาะกลุ่มกันในลักษณะกีดขวางการจราจร บีบแตรเร่งเครื่องยนต์เสียงดัง สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนตามถนนต่างๆ แล้วมารวมกันที่ถนนวิภาวดีรังสิต บช.น.และ บช.ภ.1 ได้มีการติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีแล้ว 11 ราย และสามารถตรวจยึดยานพาหนะ ที่ใช้ในการกระทำความผิดได้ส่วนหนึ่ง
ส่วนกรณีการชุมนุม เมื่อวันที่ 2 ส.ค. เวลา 11.00 น. ที่กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า นำโดย นาย จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ได้นำมวลชนมารวมกลุ่มกันสร้างความวุ่นวาย ข่มขู่ และกดดันตำรวจอย่างหนักที่ บช.ปส.ตำรวจได้มีการประกาศแจ้งเตือนให้ยุติกิจกรรมดังกล่าว แต่กลับไม่ยอมปฏิบัติตาม ตำรวจจึงต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย และสามารถจับกุมผู้มาร่วมชุมนุมได้ 34 ราย นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยขณะนี้ บช.น.ได้ดำเนินคดีกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ ที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 284 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 90 คดี ส่งสำนวนให้อัยการ หรือสอบสวนดำเนินคดีแล้ว 194 คดี และได้สั่งการให้ สน.ท้องที่เกี่ยวข้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน เร่งติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีทุกราย