xs
xsm
sm
md
lg

เชียงรายเจอคลัสเตอร์ใหม่อีก! ชาวอาข่าทำนาเหมาติดยกกลุ่มต้องปิดหมู่บ้าน “เชียงคำ” ผวาอีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงราย/พะเยา - นอภ.แม่จันสั่งล็อกดาวน์หมู่บ้านพี่น้องชาติพันธุ์อาข่าชั่วคราว..หลังพบคลัสเตอร์ใหม่โผล่ เป็นกลุ่มรับจ้างทำนาเหมา ติดเชื้อแล้วกว่า 30 จากประชากร 469 คน ขณะที่เชียงคำ-พะเยาผวาโควิดเป็นกลุ่มก้อน ลามจากพ่อค้าหนุ่มใหญ่ซ้ำรอยอีก


วันนี้ (6 ส.ค.64) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย มอบหมายให้ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าฯ และหัวหน้าคณะทำงานติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 จ.เชียงราย ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์ในพื้นที่ อ.แม่จัน หลังพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มหรือคลัสเตอร์พื้นที่บ้านรุ่งเจริญ หมู่ 11 ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน

ทำให้เจ้าหน้าที่ได้จัดชุดปฏิบัติงานในพื้นที่ทั้งบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ และสถานที่คัดแยก หรือ CI (Community Isolation) ของ ต.ศรีค้ำ ดังกล่าว

ฝ่ายปกครอง ต.ศรีค้ำ ระบุว่า ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) อ.แม่จัน ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลแม่จันว่าพบผู้ป่วยยืนยันผลโควิด-19 จำนวน 1 ราย เมื่อ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงได้ให้เจ้าหน้าที่สอบสวนโรคเพิ่มเติม ณ หมู่บ้านรุ่งเจริญ พบชาวบ้านเป็นกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดหลายคน จึงได้ทำการตรวจหาเชื้อเพิ่มเติม กระทั่งพบผู้ป่วยใหม่อีก 7 ราย ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ

ต่อมาวันที่ 5 ส.ค. จึงได้ระดมเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมจากโรงพยาบาลแม่จัน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) ศรีค้ำ ฝ่ายปกครอง สำนักงานสาธารณสุข อ.แม่จัน ทำการตรวจหาเชื้อในชาวบ้าน 69 ราย ปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก


ล่าสุด นายวรยุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่จัน ในฐานะหัวหน้า ศปก.อ.แม่จัน ได้มีหนังสือด่วนที่สุดสั่งการให้ปิดหมู่บ้านรุ่งเจริญ ห้ามคนเข้าออก ยกเว้นได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.เป็นต้นไป เพื่อป้องกันและยับยั้งการระบาด เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อเบื้องต้นจากการตรวจด้วย RT-PCR จำนวน 1 ราย และจาก Antigen Test Kit จำนวน 14 ราย และคาดว่าจะมีกลุ่มเสี่ยงเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก

ซึ่งในหมู่บ้านนี้มีประชากร 469 คน 35 ครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า ปัจจุบัน ศปก.อ.แม่จัน โรงพยาบาลแม่จัน และสำนักงานสาธารณสุข อ.แม่จัน ได้จัดตั้ง CI และให้กลุ่มเสี่ยงอยู่ภายในบ้านหรือ Home Isolation เพื่อดูแลกลุ่มที่ไม่มีอาการ โดยมีการวัดไข้และวัดออกซิเจนปลายนิ้ว รวมทั้งนัดเอกซเรย์ปอดที่โรงพยาบาลแม่จันอีกด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มผู้ป่วยหรือคลัสเตอร์ดังกล่าวเป็นกลุ่มชาวบ้านที่ไปรับจ้างดำนาหรือปลูกนาเหมา โดยได้พากันเดินทางออกจากหมู่บ้านเป็นกลุ่มด้วยรถยนต์คันเดียวกัน นั่งรับประทานอาหารด้วยกันและสัมผัสคลุกคลีกันตลอดทั้งวัน ทำให้ล่าสุดเจ้าหน้าทีได้ขยายผลไปตรวจกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ อ.แม่ฟ้าหลวง และกลุ่มคนที่อยู่ในชุมชน รวมทั้งประกาศให้ประชาชนในชุมชนได้สังเกตอาการตัวเองหากพบความผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เบื้องต้นมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 31 รายแล้ว แต่ยังคงรอการยืนยันจากสำนักงานสาธารณสุขต่อไป

ด้านสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย รายงานว่า วันเดียวกันนี้พบผู้ติดเชื้อภายในท้องที่อื่นๆ ในจังหวัดเพิ่มขึ้นจำนวน 10 ราย ติดเชื้อมาจากต่างจังหวัด 5 ราย และรับมารักษาจากต่างจังหวัด 56 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมในจังหวัด 1,907 ราย หายป่วยแล้ว 1,476 ราย รักษาอยู่ 407 ราย และเสียชีวิตสะสม 24 ราย


ด้านนายวิรุฬห์ สิทธิวงส์ นายอำเภอเชียงคำ จ.พะเยา ซึ่งเป็นท้องที่ใกล้เคียง ได้มีคำสั่ง ศปก.อ.เชียงคำ ให้กักตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อรายใหม่พื้นที่บ้านประชาภักดี หมู่ 13 ต.ร่มเย็น จำนวน 19 ราย หลังจากผู้ติดเชื้อเป็นชายอายุ 52 ปี มีประวัติไปค้าขายที่ จ.เชียงใหม่ และกลับเข้าพื้นที่เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ก่อนไปร่วมงานทำบุญ 100 วันมารดาผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 21 ต.ร่มเย็น ซึ่งมีผู้ร่วมงานจำนวนมาก จากนั้นยังไปพื้นที่ ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ที่เคยมีคลัสเตอร์ใหญ่แต่ได้ยุติการระบาดลงไปแล้ว ก่อนกลับบ้านไปร่วมดื่มกินสุรากับคนในหมู่บ้าน ปรากฏว่าต่อมาได้ป่วย ไอ ท้องเสีย และเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ไปตรวจพบว่าติดโควิด-19 ดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น