พระนครศรีอยุธยา - รองผู้ว่าฯ อยุธยาตรวจเยี่ยมและติดตามมาตรการควบคุมสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำจังหวัดและทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา ขณะสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ พบผู้เสียชีวิต 6 ราย ติดเชื้อ 434 ราย
วันนี้ (3 ส.ค.) ที่เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามสถานการณ์การติดเชื้อของนักโทษและเจ้าหน้าที่ในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายฉลาด อ่อนหัวโทน ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้แทนอำเภอพระนครศรีอยุธยา ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมติดตามและรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ภายในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีผู้ต้องขัง จำนวน 2,322 คน พบผู้ติดเชื้อ จำนวน 1,084 คน และมีผู้คุมติดเชื้อ 5 คน
ซึ่งสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 สระบุรี ได้ประสานนำรถพระราชทานตรวจหาเชื้อเคลื่อนที่ และรถเอกซเรย์พระราชทานเคลื่อนที่เข้าไปตรวจนักโทษในเรือนจำแห่งนี้ เพื่อตรวจเอกซเรย์ปอดของผู้ต้องขัง โดยจะใช้เวลา 2 วัน ในการตรวจเอกซเรย์นักโทษทั้งหมด ทั้งนี้ เรือนจำได้ดำเนินการคัดแยกผู้ต้องขังที่ติดเชื้อออกไปอยู่ในแดน B แบ่งเป็นห้องๆ ละ 50 คน ส่วนผู้ต้องขังที่ไม่พบเชื้อจะแยกไว้ที่แดน A และสถานควบคุมและตรวจพิสูจน์
นอกจากนี้ ทางเรือนจำได้ประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จัดหายาฟาวิพิราเวียร์ และฟ้าทะลายโจรให้ผู้ติดเชื้อ เพื่อไม่ให้เชื้อลงปอด พร้อมกันนี้ ได้มีการจัดอาสาสมัคร อสจร. ซึ่งเป็นผู้ต้องขังที่มีวุฒิภาวะและความรู้มาช่วยดูแลผู้ติดเชื้ออีกด้วย
จากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางไปยังทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี นายวีระ ทวีชนม์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา พร้อมทีมสาธารณสุขโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ร่วมประชุมรายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา มีผู้ต้องขังรวม 1,756 คน พบผู้ติดเชื้อ 305 คน ผู้คุมติดเชื้อ 9 คน ผู้ต้องขังได้รับวัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 1 จำนวน 480 คน ทั้งนี้ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา ได้แยกผู้ติดเชื้อแต่ละแดนออกจากกันมารวมกันจุดเดียว พร้อมจัดหาฟ้าทะลายโจร และยาฟาวิพิราเวียร์ ให้ผู้ต้องขังกลุ่มสีเหลือง และสีเขียวแล้ว
ด้าน นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ผู้ติดเชื้อล่าสุดทราบว่า ทางเรือนจำจังหวัดและทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา ได้ดำเนินการแยกผู้ติดเชื้อออกมาจากผู้ไม่ติดเชื้อ และไม่ได้ลงทำงานหรือทำกิจกรรมใดๆ เพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยทางเรือนจำได้ประสาน รพ.พระนครศรีอยุธยา ให้การรักษาแก่ผู้ต้องขังที่มีอาการไม่มากนัก และได้เน้นย้ำมาตรการให้ผู้ต้องขังสวมแมสก์ตลอด 24 ชั่วโมง และใช้เจลแอลกอฮอล์ รวมทั้งสบู่ล้างมือบ่อยๆ เพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้างด้วย
ขณะเดียวกัน สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด-19 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อมูลวันที่ 2 สิงหาคม 2564 เวลา 16.00 น. พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 434 ราย รวมตอนนี้สะสมอยู่ที่ 9,795 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 6 ราย ชาวอำเภอพระนครศรีอยุธยา หญิงไทย อายุ 82 ปี ชายไทย อายุ 65 ปี ชายไทย อายุ 70 หญิงไทยอายุ 57 ปี ชายไทย อายุ 86 ปี อำเภอภาชี ชายไทยอายุ 73 เสียชีวิตสะสมรวม 80 ราย พบตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อสูงมาจาก สัมผัสในโรงงาน/บริษัท และสัมผัสคนในครอบครัว รวมถึงเรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา