พระนครศรีอยุธยา - คณะกรรมการโรคติดต่ออยุธยา พิจารณามาตรการเร่งด่วนตาม ศบค. พร้อมแก้ปัญหาการนำผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ระบบการรักษา รวมถึงเพิ่มช่อง Call Center 24 ชม.
วันนี้ (2 ส.ค.) ที่ห้องประชุมอโยธยา ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผ่านระบบ Zoom ไปยังทุกอำเภอ โดยมี นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เขต 3 สาธารณสุขจังหวัด และคณะกรรมการเข้าร่วมประชุม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ ตัวแทนภาคธุรกิจเอกชน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom
เพื่อติดตามและกำหนดมาตรการบริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งพิจารณามาตรการเร่งด่วนให้สอดรับตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 ฉบับที่ 30 และคำสั่ง ศบค. ที่ 11/2564 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเร่งรัดแก้ปัญหากระบวนการนำผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ระบบการรักษา Home/Community Isolation ให้รวดเร็วขึ้น
โดยที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคลัสเตอร์ภายในเรือนจำจังหวัด และทัณฑสถานบำบัดพิเศษ พบผู้ต้องขังคิดเขื้อโควิด-19 รวม 1,362 คน มีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ 9 ราย ทั้งนี้ คณะกรรมการควบคุมโรคมอบให้ทางเรือนจำดำเนินการนำผู้ต้องขังตรวจพบเชื้อแยกกักห้องแยกกักโรคในแดน B เจ้าหน้าที่ให้ทำ HI ที่บ้านพัก ทำ Bubble เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานและ SEAL ผู้ต้องขังทุกแดน งดการเคลื่อนย้าย ประสาน รพศ.พระนครศรีอยุธยา และ รพ.กลางราชทัณฑ์ ขอรับการสนับสนุนยา Favipiravir ให้แก่ผู้ต้องขังสีเหลือง และประสานจัดหาฟ้าทะลายโจรให้ผู้ต้องขังทุกรายตามนโยบายกรมราชทัณฑ์
พร้อมประสาน สคร. 4 ในการตรวจเอกซเรย์ปอดผู้ต้องขังทุกรายด้วยรถเอกซเรย์พระราชทาน จัดตั้งโรงพยาบาลสนามในเรือนจำจังหวัด รองรับผู้ป่วย จำนวน 300 เตียง จัดตั้ง DATA Center ในเรือนจำเพื่อเชื่อมโยงข้อมูล และบันทึกข้อมูลผู้ป่วยประสานข้อมูลกับโรงพยาบาลแม่ข่าย (รพศ.พระนคร ศรีอยุธยา) เพื่อควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไปในวงกว้าง โดยให้ทางเรือนจำและทัณฑสถานจัดส่งข้อมูลความคืบหน้าให้คณะกรรมการโรคติดต่อทราบอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้พิจารณาเร่งรัดแก้ปัญหากระบวนการนำผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ระบบการรักษา Home/Community Isolation ซึ่งหากผู้ติดเชื้อมีผลตรวจพบเชื้อ และสมัครใจเข้ารับการรักษาในระบบ Home/Community Isolation ให้นำเข้าได้เลย และค่อยตรวจ RT-PCR ในภายหลัง ซึ่งจะทำให้ผู้ติดเชื้อได้เข้าสู่ระบบการรักษาได้รวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดจะจัดทำประกาศให้สถานพยาบาลทุกแห่งปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
อีกทั้งเพิ่มช่องทางการให้บริการประชาชน ปรึกษาด้านการแพทย์ โดยมีแพทย์ พยาบาล ให้คำปรึกษา ตั้งแต่ 08.00-16.00 น. ของทุกวัน และติดต่อสอบถามและขอความช่วยเหลือ ตลอด 24 ชั่วโมง ทาง Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 0-3532-1456
จากสถานการณ์โรคโควิด-19 พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จังหวัดจึงได้เร่งจัดตั้ง รพ.สนาม อ.ลาดบัวหลวง และ รพ.สนาม อ.ท่าเรือ เพื่อให้บริการประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว อีกทั้งดำเนินการเพิ่มศักยภาพ รพ.สนาม มทร.สุวรรณภูมิ (หันตรา) เพื่อดูแลผู้ป่วยที่ on Favipiravir ผู้ป่วยที่ให้ยา Dexa และผู้ป่วยที่ on Oxygen Canular และ Mask/bag ได้
ขณะเดียวกัน สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด-19 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อมูล วันที่ 1 สิงหาคม 2564 เวลา 16.00 น.พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 344 ราย รวมตอนนี้สะสมอยู่ที่ 9,361 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ชาวอำเภอบางบาล ชายไทย อายุ 65 ปี กับชายไทย อายุ 67 ปี เสียชีวิต สะสม รวม 74 ราย พบตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อสูงมาจากสัมผัสในโรงงาน/บริษัท รวมถึงสัมผัสคนในครอบครัว