MGR Online - “อายุตม์” เผยยอดผู้ติดโควิดใหม่ 681 ราย เสียชีวิต 1 ราย ย้ำใช้ “ฟ้าทะลายโจร” มีประสิทธิผลดีในการรักษาผู้ป่วยสีเขียวลดความรุนแรงดีขึ้น
วันนี้ (30 ก.ค.) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.ค. 64 เวลา 16.00 น.) ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 681 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 630 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 51 ราย) รักษาหายเพิ่ม 605 ราย และเสียชีวิต 1 ราย รวมมีผู้ต้องขังติดเชื้อที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งหมด 7,268 ราย
นายอายุตม์ กล่าวว่า ขณะนี้ พบเรือนจำสีแดงที่มีการแพร่ระบาดเพิ่ม 4 แห่ง คือ เรือนจำกลางสมุทรสงคราม, เรือนจำอำเภอทองผาภูมิ, เรือนจำจังหวัดอ่างทอง (เปลี่ยนสถานะจากเรือนจำสีขาว) และ ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง (เปลี่ยนสถานะจากเรือนจำสิ้นสุดการระบาด) ส่งผลให้มีเรือนจำสีแดงรวม 27 แห่ง ส่วนเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาดลดลงอยู่ที่ 108 แห่ง และที่สิ้นสุดการระบาดแล้ว 7 แห่ง มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 38,373 ราย หรือ 83 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อสะสม 46,169 ราย และเสียชีวิตสะสม 58 ราย
นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เสียชีวิต 1 ราย ในวันนี้ เป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 67 ปี จากเรือนจำจังหวัดสระบุรี มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เข้ารักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ด้วยอาการเหนื่อย หายใจเร็ว ไอ เอกซเรย์พบปอดอักเสบ 2 ข้าง ให้การรักษาด้วยยา Favipiravir Dexamethasone ยาโรคประจำตัว และ Oxygen ความเข้มข้นสูง HFNC ผู้ป่วยเหนื่อยมากขึ้น ได้ประสานญาติร่วมพิจารณารักษาและรายงานอาการผู้ป่วย ปรับเพิ่มยา Pulse methyl prednisolone ใส่ท่อช่วยหายใจและเครื่องช่วยหายใจ จนกระทั่งวันที่ 29 ก.ค. ผู้ป่วยซึมลงวัดสัญญาณชีพไม่ได้ ดำเนินการช่วยชีวิต CPR ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาและเสียชีวิตในเวลาต่อมา กรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไป มา ณ โอกาสนี้
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จำนวนของผู้ติดเชื้อและเรือนจำที่พบการแพร่ระบาดเพิ่มในระยะนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากมาตรการเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อเพื่อให้ได้รับการรักษาโดยเร็ว ทั้งการตรวจหาเชื้อในเรือนจำสีขาวที่ยังไม่แพร่ระบาดเป็นระยะๆ และในเรือนจำสีแดงที่แพร่ระบาดแล้ว เพื่อให้ผู้ติดเชื้อทุกรายได้เข้าสู่กระบวนการรักษา และได้รับยาที่รวดเร็ว โดยเฉพาะการจ่ายยาฟ้าทะลายโจรภายใต้คำแนะนำของแพทย์แก่ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ซึ่งพบว่ามีประสิทธิผลที่ดี สามารถลดความรุนแรงของโรคได้ ยิ่งในรายที่ตรวจพบเชื้อและได้รับยาเร็ว รวมถึงการจ่ายยาและรักษาผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีแดง ด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ ตลอดจนยาอื่นๆ เพื่อรักษาตามอาการ ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์เชื่อว่าการเร่งตรวจคัดกรองเชื้อได้เร็ว จะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยหนัก และลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้ในท้ายที่สุด